ภาพจาก refrigerators.reviewed   รู้กันหรือยังว่าบาร์ดีๆ ที่เสิร์ฟเบียร์เบลเยียมนั้นกำลังจะมีสถานะใกล้เคียงกับพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเข้าไปทุกทีแล้วเพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้ทางการเบลเยียมได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนให้วัฒนธรรมเกี่ยวกับเบียร์ของเบลเยียมเป็นหนึ่งในมรดกโลก ในด้าน “ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” กับ UNESCO เป็นที่เรียบร้อย โดยผู้นำท้องถิ่นของบรัสเซลส์ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างเต็มตัว เนื่องจากเขาเห็นว่า “เบียร์เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นสังคมชาวเบลเยียมมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล”   ภาพจาก isb.be   คอเบียร์จำนวนมากคงรู้จักมักคุ้นกับเบียร์เบลเยียมกันไม่มากก็น้อย ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นวิทเบียร์ชื่อดังHoegaarden หรือเบียร์จำพวกทราปปิสต์และแอบบี้ที่บรรดาพระผลิตกันตามอารามในศาสนาคริสต์อันที่จริงแล้วเบียร์เบลเยียมนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านความแตกต่างของรสชาติเบียร์แต่ละฉลาก ซึ่งมีตั้งแต่แบบเปรี้ยวเข็ดฟันจนถึงขมปี๋ จุดนี้ทำให้ชาวเบลเยียมไม่เคยมองว่าเบียร์ด้อยกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เลย เมื่อพิจารณาถึงความหลากหลายและคุณภาพ (ผู้คนในบางประเทศอาจมองว่าเบียร์มีเพียง 2-3 แบบ และไม่มีตัวเลือกมากมายเหมือนกับไวน์หรือเหล้า) นอกจากนั้นอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ของเบลเยียมยังเป็นหนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางที่ไปเยือนดินแดนแห่งนี้ด้วย เนื่องจากว่าในประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ราว 11 ล้านคนนี้ มีโรงต้มเบียร์ขนาดเล็กอยู่แทบทุกตำบล และอย่างน้อยก็มีโรงเบียร์มาตรฐานกว่า 200 แห่ง ที่ผลิตเบียร์เป็นประจำออกมามากกว่า 1,500 ฉลากกันเลยทีเดียว แถมยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเบียร์โดยเฉพาะอีกตั้งหลายสิบแห่ง! น่าเที่ยวไหมล่ะนี่ยังไม่ได้พูดถึงบาร์นะ   ภาพจาก beertourism   รากเหง้าทางสังคมที่ยึดโยงกับเบียร์ของประเทศเบลเยียมนั้นลึกล้ำอย่างมาก ดังที่เราจะเห็นได้จากตำราการทำเบียร์ของพระบาทหลวงยุคกลางและภาพเขียนที่แสดงถึงการดื่มเบียร์ของผู้คน อีกทั้งยังมีบทเพลงโบราณต่างๆ มากมายที่กล่าวถึงเรื่องเบียร์ไปจนถึงตำรับอาหารที่ใช้เบียร์เป็นส่วนประกอบ ที่น่าสนใจคืออุตสาหกรรมและวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับเบียร์ของที่นี่ไม่ได้เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์และอดีตกาลเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทในสังคมร่วมสมัยอย่างมากด้วย อย่างเราได้เห็นว่าในปี 2016 นี้เอง โรงเบียร์ Brugse Zot ได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการปรับปรุงระบบการส่งเบียร์ด้วยการวางท่อลากผ่านจากใต้ใจกลางเมืองบรูกส์ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศออกไปยังโรงบรรจุที่ตั้งอยู่นอกเมืองเพื่อสภาพแวดล้อมอันดีและภูมิทัศน์ที่งดงามสิ่งนี้สะท้อนว่าอุตสาหกรรมเบียร์กับสังคมเบลเยียมเกี่ยวพันเป็นเนื้อเดียวกันมากมายเพียงใด ภาพจาก funnyjunk   การยื่นขอขึ้นทะเบียนครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับคอเบียร์ทั่วโลก และโดยเฉพาะชาวเบลเยียมเองจริงๆ อย่างที่นาย Sven Gatz รัฐมนตรีวัฒนธรรมของแฟลนเดอร์สตอนเหนือ (และอดีตผู้นำสมาคมผู้ผลิตเบียร์เบลเยียม) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เปรียบได้กับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก” เลยทีเดียว ครั้งหน้าหากคุณได้ไปสังสรรค์ดื่มกินที่บาร์สักแห่ง อย่าลืมมองหาบาร์ที่เสิร์ฟเบียร์เบลเยียมล่ะ เพราะนอกจากคุณจะได้สนุกสนานกับเพื่อนฝูงแล้ว นั่นก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้“ดื่มด่ำ”ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมไปพร้อมกันด้วย :D แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกจะออกไปตามบาร์ที่เสิร์ฟเบียร์เบลเยี่ยม ลองเข้าพิพิธภัณฑ์เบียร์เบลเยี่ยมออนไลน์ ที่เราพร้อมส่งเบียร์ให้คุณถึงบ้านกันก่อนดีกว่าที่ลิ้งค์นี้เลย https://www.wishbeer.com/belgian beer นอกจากคุณจะพบกับเบียร์ขึ้นชื่ออย่าง Hoegaarden, Trappist Rochefort และ Brugse Zotแล้ว ยังมีเบียร์อีกมากมายให้คุณได้ศึกษาและลิ้มลอง

ภาพจาก suitelife   ภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บาร์เบียร์หลายแห่งที่เคยเรียบง่ายด้วยเมนูเบียร์ลาเกอร์กับของแกล้มไม่กี่อย่างได้กลับกลายเป็นสถานที่ “อินเทรนด์” ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รายการเครื่องดื่มที่จัดเรียงอย่างพิถีพิถันด้วยคราฟต์เบียร์หลายชนิด และเหล่าฮิปสเตอร์ผมปาด (บางคนอาจสวมแว่นฮิปๆ และมีหนวดเคราสวยงาม) รวมทั้งธรรมเนียมปฏิบัติใหม่ๆ ที่นักดื่มทำกัน แล้วมีอะไรบ้างที่คอเบียร์ร่วมสมัยทั่วโลกเขาทำเมื่อสังสรรค์ในร้านคราฟต์เบียร์แบบนี้ อะไรที่เป็นมารยาทอันพึงประสงค์ในการดื่มคราฟต์เบียร์ เรามาดูกัน ภาพจาก pinterest   ชิมเบียร์ในปริมาณที่เหมาะสม สมัยนี้เมื่อเข้าไปในร้านเบียร์ที่มีรายการให้เลือกมากมายจนละลานตา หลายคนคงเคยได้รับข้อเสนอให้ลองชิมเบียร์แต่ละชนิดดูก่อนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะสั่งมาทั้งแก้ว คุณไม่ควรจะฉวยโอกาสจากธรรมเนียมนี้ด้วยการชิมแล้วชิมอีกจนมากเกินไป (บางคนก็เนียนชิมวนไปจนเมาแอ๋) แม้ว่าบรรดาพนักงานจะเต็มใจบริการเช่นนั้นก็ตาม   เคารพรสนิยมที่แตกต่าง ตระหนักไว้เสมอว่าเบียร์ที่คุณไม่ชอบนั้นเป็นคนละเรื่องกับเบียร์ที่ไม่ดี รสนิยมของคนเรานั้นย่อมแตกต่างกันไป ภาพจาก foodiggity   สงสัยให้ถาม สอบถามพนักงานหากคุณมีข้อสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยู่ในร้านที่ได้มาตรฐาน และหากคุณโชคดีมีโอกาสได้พบกับบริวเวอร์ (คนทำเบียร์) ของเบียร์ที่คุณมีคำถามในใจ ก็เชิญสอบถามให้ไว เพราะบริวเวอร์ก็ชอบพูดคุยถึงเรื่องเบียร์ทั้งนั้นแหละ เบียร์แรงอาจเสิร์ฟในปริมาณที่น้อยกว่า (หากราคาเท่ากัน) กรุณาอย่าบ่นเลย หากคุณได้รับเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ดีกรีสูงๆ ในแก้วขนาดเล็กกว่าปกติ เหตุผลนั้นง่ายมาก ก็เพราะเมื่อวัดกันต่อหน่วยแล้วเบียร์แบบนี้ราคาสูงกว่าเห็นๆ และคุณคงไม่อยากเมาหัวทิ่มหัวตำกลับบ้านจริงไหม ภาพจาก masterfile   อย่ามโนไปเอง พึงอย่าด่วนตัดสินและกล่าวหาว่าร้านเบียร์เสิร์ฟ “เบียร์จางๆ” เพราะการแขวะว่าร้านเบียร์นั้นเจือจางน้ำเบียร์ก่อนเสิร์ฟโดยไม่มีหลักฐานเป็นอะไรที่แย่มาก อย่าถามหา “แก้วแช่” การเสิร์ฟเบียร์ในแก้วแช่แข็งจะทำให้เบียร์เกิดโฟมฟองเต็มไปหมดทั้งแก้ว และหากคุณดื่มเบียร์ในลักษณะแบบนั้น คุณก็จะไม่ได้รู้จักตัวตนของสิ่งที่เลือกดื่มเลย ภาพจาก beer52   อย่ากระดกยกจนเมาปลิ้น คุณควรจะค่อยๆ ละเลียดกลิ่นรสของเบียร์ไปทีละนิดพร้อมกับพูดคุยอย่างออกรสกับเพื่อนๆ หรือไม่ก็เสพบรรยากาศดีๆ ของสถานที่เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าประทับใจ เห็นไหมว่ามารยาทปฏิบัติพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย หลายเรื่องก็เป็นเรื่องสามัญสำนึกทั่วไปนั่นล่ะ แต่หากนึกอะไรไม่ออก คุณก็แค่ทำสิ่งที่เป็นการให้เกียรติสถานที่และเพื่อนนักดื่มที่กำลังสังสรรค์กันอยู่อย่างสนุกสนาน ง่ายๆ เท่านั้นเอง!   ดัดแปลงจาก independent

ภาพจาก bestlittlebrewfestintexas   เดี๋ยวนี้ผู้คนหันมาดูแลรูปร่างกันเยอะ และหลายคนก็หลีกเลี่ยงการดื่มอยู่ตลอดทั้งทีหัวใจเรียกร้องอยู่ทั้งวันเพียงเพราะกลัวอ้วน ทำให้การรักษาหุ่นกลายเป็นเรื่องเครียดและไม่น่าสนุกเอาเสียเลย เอาล่ะ! เป็นที่รู้กันว่าขาวยิมจำนวนไม่น้อยนิยมดื่มเครื่องดื่มโปรตีนหลังจากออกกำลังกายมาอย่างเหน็ดเหนื่อย นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่หรอก แต่คำถามก็คือ “เราจะลองเปลี่ยนมาดื่มเบียร์สัก 1-2 แก้วจะได้ไหม” ปัจจุบันคำตอบจากการศึกษาวิจัยบ่งชี้ว่า “ได้ และดีด้วย” สนุกล่ะสิคราวนี้ ภาพจาก punjabigraphics   Charlie B. อาจารย์วิชา Brewing Science จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-เดวิส อธิบายว่าหากเรานำเบียร์มาวิเคราะห์สารอาหารแล้วจะพบว่าเบียร์เป็นของที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ทั้งเซเลเนียม (ซึ่งจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) วิตามินบี ฟอสฟอรัส (เสริมสร้างกระดูกและฟัน) และไนอาซิน (มีประโยชน์ต่อเรื่องโคเลสเตอรอล) นอกจากนี้เบียร์ยังอุดมไปด้วยโปรตีน ใยอาหาร ซิลิคอน และอื่นๆ อีกหลายอย่างซึ่งรวมๆ แล้วเหมาะกับผู้ที่เพิ่งใช้แรงออกกำลังการอย่างยิ่ง! ความดีงามของเบียร์ก็คือ นอกจากจะมีสารอาหารมากมายแล้ว เบียร์ก็อร่อยและทำให้ร่างกายที่ตึงเครียดจากการใช้งานหนักได้ผ่อนคลายอย่างรวดเร็วอีกด้วย ภาพจาก paper4pc   บางคนที่เคร่งครัดเรื่องการนับแคลอรี่อาจสงสัยว่าแล้วการดื่มเบียร์จะไม่ทำให้การออกกำลังกายเสียเปล่าหรือ คำตอบก็คือไม่เชิง เพราะหากคุณลองดูพลังงานที่ได้รับจากเบียร์สัก 1-2 ดริงค์ เทียบกับอาหารมื้อเล็กๆ สักมื้อหรือแม้กระทั่งเวย์โปรตีนที่คุณดื่มเป็นประจำแล้ว มันแทบไม่ต่างกันเลย นั่นหมายความว่าหากคุณดื่มเบียร์ที่ดีกรีไม่แรงนัก ปัญหาเรื่องนี้ก็แทบจะไม่มีเลย ลองนึกถึงเซสชั่นไอพีเอสักขวดหลังจากปั่นจักรยานมา 10 กิโลเมตรสิ แจ่ม! แล้วจะลงพุงไหม? ข้อนี้บรรดานักวิจัยจำนวนมากสรุปให้ฟังเลยว่าไม่มีผลการศึกษาใดที่รองรับสมมติฐานนี้! ถ้าคุณดื่มเบียร์มากเกินไป คุณก็อ้วนขึ้นไม่ต่างจากการกินมากเกินพอดีนั่นเอง จึงแน่นอนว่ามีคนที่ดื่มเบียร์แกล้มกับมันเยิ้มๆ เป็นประจำและพุงโลเป็นถังเบียร์อยู่ทั่วไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าก่อนจะไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่บาร์ ก็ไปเข้ายิมเสียก่อนและไปจิบเบียร์เย็นๆ ให้สบายใจบ้างก็เข้าท่าไม่หยอก ข้อสำคัญก็อย่างที่คุณรู้นั่นแหละ “แค่อย่าดื่มหนักเกินไป” เท่านี้ร่างกายคุณก็มีความสุขแล้ว J  

  ภาพจาก beertopia   งาน Beertopia คือเทศกาลเบียร์ครั้งใหญ่ของเกาะฮ่องกงซึ่งจัดต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2012 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปัจจุบันงานได้ถูกจัดขึ้นบริเวณ Central Habourfront ซึ่งรายล้อมไปด้วยตึกระฟ้าที่ดูสวยงามแปลกตา หากคุณสงสัยว่างานนี้ใหญ่โตแค่ไหนก็บอกได้ว่าเป็นการจัดเต็มของร้านอาหารและโรงเบียร์ท้องถิ่นหลายสิบแห่ง เบียร์จากทั่วโลกค่อน 1,000 ฉลากและผู้เข้าร่วมรวมๆ แล้วก็หลักหมื่นกันเลยทีเดียว   ภาพจาก beertopia   ภาพจาก wishbeer   จุดกำเนิดของงานนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการที่ชายผู้หนึ่งจากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา นามว่า Jonathan So ย้ายไปอยู่ที่ฮ่องกงหลังจากไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์กมาหลายปี และพบว่าในขณะที่ฮ่องกงเต็มไปด้วยไวน์ชั้นเยี่ยม แต่กลับล้าหลังในเรื่องเบียร์อย่างมาก (เมื่อหลายปีที่แล้ว) ไม่มีงานคราฟต์เบียร์หรืออะไรที่ใกล้เคียงเลย ตลาดเบียร์ก็จำกัดจำเขี่ยอยู่กับเบียร์ลาเกอร์ไม่กี่รายเท่านั้น เขาจึงคิดลงมือจัดงานคราฟต์เบียร์ขึ้น Jonathan So มองว่าเป้าหมายของงาน Beertopia นั้นคือการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ชิมและเรียนรู้เกี่ยวกับเบียร์คุณภาพดีแบบที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ภายใต้บรรยากาศที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา และพร้อมกันนั้นก็ผลักดันให้คราฟต์เบียร์ขึ้นมาอยู่แถวหน้าในฐานะตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้คนนึกถึงเมื่อคิดจะดื่มกินกันสักครั้งหนึ่ง เมื่อมาจนถึงวันนี้ เราคิดว่าเขาทำสำเร็จไปมากแล้วล่ะJ   ภาพจาก beertopia   งาน Beertopia 2016 นี้ เป็นงานครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของวงการคราฟต์เบียร์ไทยเช่นกัน เมื่อมีเบียร์แบรนด์ไทยตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียงถึง 5ยี่ห้อด้วยกัน นั่นก็คือ สโตนเฮด มหานคร แซนด์พอร์ต โกลเด้นคอยน์ และทริปเปิลเพิร์ล ซึ่งต่างก็ได้รับความนิยมชมชอบจากคอเบียร์ต่างชาติกันถ้วนหน้าJ   ภาพจาก wishbeer   ภาพจาก stonehead   ภาพจาก wishbeer ภาพจาก goldencoins   ภาพจาก sandport   ส่วนพ่อแม่พี่น้องนักดื่มชาวไทยที่สงสัยว่าคราฟต์เบียร์ไทยที่โกอินเตอร์จะมีรสชาติอย่างไร สามารถเลือกไปลองชิมได้ง่ายๆ สะดวกถึงบ้านจากร้านเบียร์ออนไลน์อันดับหนึ่งอย่าง Wishbeer.com ได้ทุกวันเลย! ภาพจาก Mahanakhon

  ภาพจาก facebook.com/devafarmcafe   ภาพจาก facebook.com/devafarmcafe   ช่วงนี้เมืองไทยมีอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นแรงบันดาลใจของพวกเราชาวเบียร์เยอะจริงๆ ไม่ว่าจะบรรดาคราฟต์เบียร์ไทยที่ออกไปทำกันในต่างแดนและทยอยกลับเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายร้านเบียร์ใหม่ๆ พร้อมเบียร์แบรนด์ดังมากหน้าหลายตาจากทุกมุมโลกที่หลั่งไหลเข้าสู่บ้านเรา รวมไปถึงเรื่องที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ด้วย เรื่องฮอปส์! บางคนอาจยังสงสัยว่าฮอปส์คืออะไร และบางคนที่พอทราบมาบ้างก็ยังอาจไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับความสำเร็จในการเพาะปลูกฮอปส์ในระดับโรงเรือนของ Deva Farm ซึ่งเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักพัฒนาซอฟต์แวร์คนหนึ่ง ที่ทลายขีดจำกัดของดินฟ้าอากาศเมืองไทยได้โดยอาศัยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และความรู้ที่สั่งสมมา จนพ่อแม่พี่น้องในวงการคราฟต์เบียร์และวงการเกษตรต้องอึ้งและทึ่งอย่างยินดีไปตามๆ กัน   ภาพจาก beerandbrewing   ฮอปส์คืออะไร? กล่าวโดยรวบรัด ฮอปส์เป็นพืชเถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่งซึ่งเราใช้ดอกมาเป็นส่วนผสมหลักของเบียร์ ซึ่งได้แก่ น้ำ มอลต์ ยีสต์ และดอกฮอปส์ ภาพจาก cheahabrewingcompany   ในอดีตนั้นฮอปส์ถูกนำไปใช้เป็นยา เครื่องดื่มและอาหารหลายชนิด แต่ในปัจจุบันฮอปส์ที่เพาะปลูกกันเกือบทั้งหมดในโลกได้ถูกใช้ไปเพื่อการผลิตเบียร์ ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงแรกที่ดอกฮอปส์เริ่มถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำหรับผลิตเบียร์นั้น วัตถุประสงค์ของมันก็มีเพียงเพื่อการปรุงรสขมและการยืดอายุของน้ำเบียร์เป็นหลักเนื่องจากฮอปส์มีคุณสมบัติที่ดีในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย แต่ทุกวันนี้ฮอปส์ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากมายและรับหน้าที่สำคัญยิ่งอีกประการ นั่นคือการแต่งกลิ่นหอมหวนในรูปแบบต่างๆ ให้กับเบียร์ ภาพจาก hrgrowler   ที่ผ่านมาแม้ว่าฮอปส์จะเป็นพืชที่ปลูกขึ้นได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่แหล่งปลูกฮอปส์ที่สำคัญอันดับต้นๆ นั้นมีอยู่ 5 แห่ง คือ 1. เขตฮาเลอร์ทัวร์ในเยอรมนี 2. หุบเขาวิลาแมทท์ในรัฐโอเรกอน 3. หุบเขายาคิมาในรัฐวอชิงตัน 4. จังหวัดแคนยอนตะวันตกและเมืองใกล้เคียงในรัฐไอดาโฮและ 5. เมืองเคนท์ในสหราชอาณาจักร ในประเทศไทยเองก็มีความพยายามเพาะปลูกฮอปส์อยู่ประปรายและก็เกิดผลสำเร็จบ้างบางครั้งคราวหากแต่ยังขาดความต่อเนื่อง ทำให้ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้เห็นฮอปส์จากลมฟ้าอากาศของเมืองไทยกันจริงๆ เสียที แต่ในวันนี้สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นแล้วที่ Deva Farm ผลงานของคุณอ๊อบ ณัฐชัย (ผู้ทำคราฟต์เบียร์นามว่า Devanom หรือ “เทพนม” นั่นเอง)   Deva Farm ภาพจาก bk.asia-city | asia city media group   ฟาร์มฮอปส์แห่งแรกในประเทศไทย และสวนผักผลไม้ไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอปากเกร็ดของจังหวัดนนทบุรีคือผลงานที่น่าภาคภูมิใจของคุณอ๊อบ ผู้ผันตัวเองมาจากวงการซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่เขาคลุกคลีมานับสิบปี เพื่อเข้าสู่การเป็นเกษตรกรยุคใหม่อย่างเต็มตัว แรกๆ นั้นเขาเริ่มจากการปลูกผักผลไม้หลายชนิดด้วยเทคนิคการเพาะปลูกแบบไม่ใช้ดิน (ไฮโดรฯ) เพื่อรับประทานเอง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ แตงกวา...