Beer RSS
ดูเขาดูเรา? : สรุปความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมคราฟต์เบียร์ในอเมริกาในปี 2016
การเดินทางไกลของเบียร์ IPA
ภาพจาก kickstarter เบียร์เป็นหนึ่งในบรรดาเครื่องดื่มที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเราจึงพบว่าเบียร์เข้าไปเกี่ยวพันกับพัฒนาการของสังคมโลกอย่างลึกซึ้งและหลายครั้งก็มีบทบาทที่น่าสนใจในความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เบียร์จึงเต็มไปด้วยเรื่องเล่า และหนึ่งในประเภทของเบียร์ที่มีเรื่องเล่ามากที่สุดก็เบียร์อินเดียเพลเอลหรือ IPA (ไอพีเอ) นั่นเอง พูดถึงเบียร์สุดฮิตชนิดนี้เราก็ได้เคยพูดถึงลักษณะทั่วไปและต้นกำเนิดคร่าวๆ ไปแล้วในหลายโอกาส วันนี้เราลองมาทำความรู้จักพื้นเพประวัติความเป็นมาของมันให้ลึกลงไปกว่าเดิมกันเถอะ เบียร์ไอพีเอเป็นหนึ่งในมรดกตกทอดจากยุคสมัยแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอังกฤษ และหากเรามองย้อนกลับไปในอดีตก็จะพบว่านี่คือหนึ่งในประเภทของเบียร์ที่เคยรุ่งโรจน์และได้รับความนิยมอย่างมากในหลายมุมโลก ก่อนที่คลื่นความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยีและกฎระเบียบต่างๆ จะถาโถมซัดกระหน่ำและทำให้เบียร์แบบลาเกอร์มีโอกาสก้าวขึ้นสู่บัลลังก์เดียวกันนั้น จนกระทั่งทุกวันนี้เมื่อความเปลี่ยนแปลงไม่เคยหยุดนิ่งและปัจจัยต่างๆ ก็กลับมาประจวบเหมาะอีกครั้งครา เบียร์ไอพีเอจึงได้หวนกลับมามีพื้นที่อันโดดเด่นในวงการเบียร์ทั่วโลกอย่างที่เราได้เห็นกัน เริ่มออกจากฝั่ง ภาพจาก thepregrinatingpenguin ราวศตวรรษที่ 18 บรรดาเจ้าหน้าที่และนักเดินเรือของบริษัทการค้า “บริติชอีสต์อินเดีย” ซึ่งนำเข้าสินค้าจำพวกเครื่องเทศและเครื่องนุ่งห่มจากอินเดียมูลค่ามหาศาลและมีกองเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น พบว่าการเดินเรือในเที่ยวขาออกจากสหราชอาณาจักรซึ่งเรือยังบรรทุกสิ่งของไปไม่มากนักคือโอกาสอันดีของพวกเขาในการนำเอาสินค้านานาชนิดติดออกไปค้าขายยังปลายทาง และในเวลาต่อมาการเดินทางข้ามทวีปอันยาวนานก็ได้ส่งผลให้พ่อค้าชาวเรือผู้เบื่อหน่าย เริ่มขนสินค้าที่สามารถใช้เป็นเสบียงชั้นเลิศสำหรับช่วงเวลาพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วยไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแฮม เนยแข็ง เครื่องดื่ม (ทั้งที่หาได้จากบ้านเกิดและจุดแวะพักต่างๆ) ถ้วยชามรามไหและเครื่องแก้วหลากชนิด เมื่อได้รับความจรรโลงใจเป็นอย่างดี การค้าขายก็ดำเนินไปด้วยความราบรื่น กระทั่งเกิดโอกาสดีๆ สำหรับธุรกิจใหม่มากมายและโรงเบียร์ Bow Brewery ของ George Hodgson ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถคว้ามันเอาไว้ได้ หนึ่งในปัจจัยที่เอื้อให้ Hodgson ก้าวสู่จุดนั้นได้ก็คือที่ตั้งของโรงเบียร์ซึ่งอยู่ใกล้กันกับสำนักงานใหญ่ของบริษัทอีสต์อินเดียนั่นเอง ความใกล้ชิดเช่นนั้นทำให้เขามีจังหวะเหมาะมากมายที่จะเลียบๆ เคียงๆ ขายเบียร์แก่นักเดินเรือที่กำลังพักผ่อนในบาร์ละแวกชุมชน โดยในช่วงเริ่มต้นเขามีข้อเสนอที่น่าทึ่งอย่างมากคือการให้เครดิตเทอมยาวนานถึงขนาดรอบไปกลับของเรือซึ่งบางคราวกินระยะเวลาเกินขวบปีเลยทีเดียว ในเวลานั้น มีการส่งออกเบียร์ไปยังประเทศอินเดียอยู่ก่อนแล้ว หากแต่เบียร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ทหารซึ่งประจำการอยู่ที่นั่นคือเบียร์พอร์เตอร์ซึ่งไม่ค่อยถูกปากพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่มักจะมองหารสชาติที่ละเลียดละไมมากกว่านั้น แต่เบียร์ของ Hodgson ตอบโจทย์นี้ได้ เบียร์ที่เขาส่งออกไปนั้นคือเบียร์เพลเอล หรือที่เข้าใจกันในเวลานั้นว่าเป็นเบียร์เอลอังกฤษ (หรือเรียกอีกอย่างว่า “บิตเตอร์”) สีอ่อนจางซึ่งนับว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดอย่างหนึ่งในสมัยนั้น เพลเอล และมอลต์สีจางผู้มาพร้อมกับเทคโนโลยี ภาพจาก johnmhenderson ความสำเร็จของการพัฒนาถ่านโค้กในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ส่งผลให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถในด้านการผลิตอย่างมาก และการทำมอลต์ก็เป็นหนึ่งในนั้น การเผาไหม้ที่หมดจดยิ่งขึ้นของถ่านโค้กช่วยให้มอลต์ที่ออกมามีสีจางลงและมีรสที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น ขณะเดียวกันการผลิตก็มีเสถียรภาพสูงขึ้นด้วย เบียร์จากมอลต์แบบใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นนี้มีลักษณะที่ถูกใจคอเบียร์ผู้มีอันจะกินในเวลานั้นมากกว่าเบียร์รสออกหวานสีเข้มที่ชาวบ้านร้านตลาดนิยมกัน เพลเอลของ Hodgson เป็นเบียร์ที่ใส่ดอกฮอปส์ปริมาณมากเนื่องจากคุณสมบัติในการถนอมอาหารของพืชชนิดนี้ช่วยให้เบียร์ยังคงมีลักษณะที่ดีพอสมควรเมื่อผ่านการข้ามน้ำข้ามทะเลที่ยาวนานไปถึงปลายทาง แม้กระทั่งเบียร์บางส่วนที่เกิดติดเชื้อขึ้นก็ยังพอขายได้เพราะกลิ่นฮอปส์ที่จัดจ้านช่วยกลบเกลื่อนความเปรี้ยวที่เกิดขึ้นไว้นั่นเอง อันที่จริงนักดื่มในยุคนั้นต่างมีความเชื่อกันด้วยซ้ำไปว่าเบียร์ที่เต็มไปด้วยดอกฮอปส์แบบนั้นจะมีรสที่กลมกล่อมขึ้นเมื่อได้ใช้เวลาบ่มตัวเองท่ามกลางคลื่นน้อยใหญ่และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมาในระหว่างการเดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปไปยังอ่าวเบงกอล ยุคสมัยแห่งการตื่นไอพีเอ ภาพจาก americancraftbeer กิจการโรงเบียร์ของ Hodgson ดำเนินไปอย่างงดงามจนกระทั่งเขาเกือบมีสถานะเป็นผู้ผูกขาดตลาดภายใต้น้ำเมาราคาถูกและเครดิตเทอมที่ยาวนานตรงใจชาวเรือ แต่แล้วความเปลี่ยนแปลงก็มาเยือนเมื่อเขาตัดสินใจก้าวลงสนามแข่งโดยการลดทอนเครดิตเทอมที่เคยให้แก่นักเดินเรือเหล่านั้นลง และเริ่มส่งออกเบียร์ด้วยกองเรือของตนเองแทน บริษัทอีสต์อินเดียไม่ค่อยพอใจต่อสถานการณ์เช่นนี้นัก และในที่สุดก็ได้เข้าเจรจากับนักทำเบียร์มือดีจาก Burton-on-Trent คนหนึ่ง นามว่า Samuel Allsop...
3 เรื่องที่เราตั้งใจจะทำสำหรับปี 2017 ในฐานะคอเบียร์
The 5 Best Christmas Movies
สอนทำเมนูเด็ด “Beer Nog” ต้อนรับปีใหม่ให้คอเบียร์
ภาพจาก thenutritionwatchdog เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Egg Nog ถือเป็นของเก๋ไก๋ที่เข้ากันดีกับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ที่อากาศเย็นสบายแบบนี้ เพราะความเข้มข้นนมเนยและดีกรีที่ทำให้เราอบอุ่นใจ สำหรับบางคนที่เคยอ่านวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง The Little House in the Big Woods ก็อาจจะจำกันได้คลับคล้ายคลับคลา วันนี้เรามาในฐานะคอเบียร์ ดังนั้นเราจะไม่อธิบายวิธีการทำเจ้า Egg Nog ให้เสียเวลา แต่เราจะมาทำ Beer Nog ในแบบโฮมเมดกัน (อันที่จริงมันก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่เราชอบเมนูนี้มากกว่าเห็นๆ) ถ้าถามว่าแล้วรสชาติจะออกมาแนวไหน คุ้มที่จะทำหรือไม่ เราก็พอบรรยายได้ดังนี้ว่า นี่จะเป็นเครื่องดื่มที่หวานนุ่มและข้น หอมเครื่องเทศ ตามแบบฉบับ Nog ดั้งเดิม แต่ความซ่าเบาๆ จากเบียร์จะช่วยลดความแน่นหนักลง จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับเบียร์ที่คุณเลือกมาแล้วล่ะว่าจะมีกลิ่นรสอย่างไร เสริมมิติอะไรให้กับ Beer Nog ของคุณ สไตล์เบียร์ที่เราแนะนำให้ใช้: เบลเยียน สตรองเอล, อิมพีเรียลสเตาท์, บาร์เลย์ไวน์, เบียร์ประจำเทศกาลคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่และเบียร์ประจำฤดูหนาว เอาล่ะ สูตรต่อไปนี้สามารถเสิร์ฟได้ทั้งสิ้น 4 แก้วด้วยกัน มาเตรียมตัวเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ ของคุณกันเลย! ภาพจาก hoplightsocial ส่วนผสม ไข่ไก่ 4 ฟอง น้ำตาล ½ ถ้วย นมโคไม่พร่องมันเนย 1 ½ ถ้วย ครีม 1 ถ้วย เมล็ดจันทน์เทศป่นหรือดอกจันทน์เทศป่น 2 หยิบมือ เบียร์ที่เลือกใช้ 4ออนซ์ (ราว 120 มิลลิลิตร)* เราชอบใช้บาร์เลย์ไวน์ หรือไม่ก็อิมพีเรียลสเตาท์ เบอร์เบิน หรือดาร์ครัม ½ ออนซ์ (ราว 15 มิลลิลิตร) * เมนูนี้เราลดปริมาณเหล้าลง เนื่องจากต้องการกลิ่นรสของเบียร์ ภาพจาก dishmaps วิธีทำ แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว...