ภาพจาก mensfitness   เราอาจพอรู้กันอยู่แล้วว่าผู้คนที่สนใจดื่มคราฟต์เบียร์มากกว่าเบียร์ตลาดแบบทั่วไปอย่างพวกเรานั้น ให้ความสำคัญกับการดื่มแบบพิถีพิถันและมักจะดื่มในปริมาณที่น้อยกว่าด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีอะไรอีกบ้างที่เราเรียนรู้ได้จากผลการศึกษาเรื่องพฤติกรรมการบริโภคในแบบฉบับของพวกเรา การศึกษาวิจัยโดย The Harris Poll จากกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,978 คน พบว่า คนที่เลือกดื่มคราฟต์เบียร์นั้นจะดื่มน้อยกว่าคอเบียร์ตลาดชาวอเมริกันโดยเฉลี่ย อีกทั้งยังเลือกรับประทานอาหารที่ดีและออกกำลังกายบ่อยกว่าด้วยโดยร้อยละ 73 บอกว่า เขาคิดว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นวิธีการผ่อนคลายอารมณ์ซึ่งเหมาะกับโอกาสพิเศษต่างๆ ในขณะมีเพียงร้อยละ 67 ของกลุ่มคอเบียร์ตลาดเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ โดยความแตกต่างลักษณะเดียวกันนี้จะเห็นได้ชัดมากในกลุ่มนักดื่มที่มีอายุน้อยลงมา คือมีสัดส่วนถึงร้อยละ 80 ที่มองว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเปรียบได้กับการบำบัดดูแลร่างกายจิตใจอื้ม... ตรงใจเราอยู่เหมือนกันนะ นาย Danelle Kosmal รองประธานของ Nielsen’s Beverage Alcohol Practice กล่าวว่าผลการศึกษานี้เป็นเรื่องที่คนทำเบียร์และผู้ค้าปลีกควรให้ความสนอกสนใจพอสมควรเลยทีเดียว เมื่อจะต้องคิดว่าควรขายเบียร์ของตนเองอย่างไร อย่างแรกเลย ทุกคนควรรู้ว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะเป็นวันที่ดีที่สุดในการจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ร้าน ในห้างสรรพสินค้าหรือที่อื่นใดก็ตาม เพราะว่ามันคือช่วงเวลาที่พีคที่สุดสำหรับการดื่มเบียร์ ในสายตาของคอคราฟต์เบียร์ ในด้านพฤติกรรมการดูแลสุขภาพนั้น ผลการศึกษายังพบด้วยว่า คนที่ดื่มคราฟต์เบียร์ถึงร้อยละ 57 จะออกกำลังกายหลายครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าสัดส่วนร้อยละ 52 ของคอเบียร์ตลาดและข้อมูลยังเจาะลึกลงไปอีกว่าคอคราฟต์เบียร์ร้อยละ 40 จะชื่นชอบการออกกำลังกายแบบกลุ่มมากกว่าแบบเดี่ยว ข้อมูลชุดนี้สะท้อนว่าผู้ผลิตและขายคราฟต์เบียร์มีโอกาสที่จะมัดใจลูกค้าในวันธรรมดาได้ด้วยการจัดงานรวมกลุ่มที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการออกกำลังกายได้ด้วย   ภาพจาก draftmag   อันที่ก็มีผู้ผลิตคราฟต์เบียร์หลายยี่ห้อที่เริ่มทำแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสนับสนุนงานเดิน-วิ่ง หรือกิจกรรมโยคะกลุ่มประจำสัปดาห์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะว่าในงานแบบนี้ชาวคราฟต์เบียร์ก็ยังสามารถออกกำลังกายได้ ในขณะเดียวกันก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่สนุกสนาน ได้ดื่มเบียร์กับเพื่อนฝูงซึ่งชอบและสนใจในสิ่งที่คล้ายๆ กัน ในด้านการรับประทานอาหารเอง ชาวคราฟต์เบียร์อย่างเราก็พิถีพิถันมากกว่าเช่นกัน โดยมีถึงร้อยละ 78 ที่อ่านข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการบนฉลาก (เทียบกับร้อยละ 73 ของคอเบียร์ตลาด) และเรายังมีความรู้มากกว่าในเรื่องพลังงานที่จะได้รับจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ด้วยงานละเอียดไหมล่ะ! ภาพจาก huffingtonpost   แต่... บอกไว้ก่อนนะว่าถึงแม้พวกเราจะอ่านมันอย่างใส่ใจแล้วก็ตาม แต่หากว่ามีเบียร์ไอพีเอรสเด็ดมาวางอยู่ตรงหน้าแล้วล่ะก็ จะให้ลดข้าวลงสักครึ่งถ้วยก็ยอม หรือให้ไปดื่มเครื่องดื่มจำพวกไลท์เอยไดเอทเอยเราก็ยินดีจริงไหม ภาพจาก craftbeer   The Harris Poll หมายเหตุไว้ด้วยว่า จริงอยู่ที่ว่าคอดื่มคราฟต์เบียร์จะมีแนวโน้มเป็นคนที่มีเงินมากและได้รับการศึกษาสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอยู่ไม่น้อย แต่การศึกษากลุ่มประชากรชิ้นนี้ได้มีการใช้วิธีถ่วงน้ำหนักตัวแปรอายุ เพศ ชาติพันธุ์ การศึกษา ภูมิภาค และรายได้ครัวเรือนมาเรียบร้อยแล้ว...

ถึงวันนี้ใครยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวงการคราฟต์เบียร์ไทยเราก็คงจะเชยตกขอบสุดๆ ไปเลย เพราะหนึ่งในข่าวคราวที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากบนสื่อในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ก็คือเรื่องราวของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ถูกจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากพยายามทำคราฟต์เบียร์ขึ้นมาจำหน่าย นายเท่าพิภพ หรือ “เท่า” นั่นเอง วันนี้ Wishbeer ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาโดยตรง ใครอยากรู้ว่าเขามีแนวคิดอย่างไรกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและมองไปข้างหน้าแบบไหนอย่างไร เชิญตามมาเสพกันให้ไว! “Bonsoir. Je m’appelle Taopiphop… Je suis un criminel.” เท่ากล่าวทักทายติดตลกเป็นภาษาฝรั่งเศสก่อนที่จะหัวเราะร่วนไปกับผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของเรา คุณ Jerome นั่นเอง (ต่อไปนี้เราจะเรียกเขาว่า J)   J: สวัสดีครับ ขอบคุณที่มาในวันนี้ วันนี้เราต้องเรียกคุณว่าเน็ตไอดอลใช่ไหม? เท่า: โอย! อย่าเลยครับ เดี๋ยวเขาถ่ายรูป (ขณะดื่มเบียร์) แล้วโดนฟ้องเลยครับ ผมคือเท่าคนเดิม เพิ่มเติมคือมีคดี (หัวเราะ) J: วันนี้เห็นว่าไปหลายที่เลย? เท่า: ใช่ครับ วันนี้เปิดบาร์ให้ช่อง 3 ช่อง 7 และวอยซ์ทีวี แล้วก็ไป ASTV ก่อนจะฝ่ารถติดมาที่นี่หลังจากนี้ก็อาจไป Mikkeller แวะหาเพื่อนๆ ก็เดินสายขอบคุณคนที่เป็นห่วงครับ ขอบคุณที่เชิญมาและขอบคุณที่ให้กำลังใจ J: ขอบคุณที่มาครับ เราอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและจะทำอะไรต่อไป? เท่า: ก็คือโดนจับครับ เพราะว่าทำเบียร์ผิดกฎหมาย เรื่องราวจบไปตามศาลแล้วครับ โดนค่าปรับและรับโทษไปแล้ว แต่ก็อยากทำตาม passion ต่อ ซึ่งที่มีก็คือร้านเบียร์ ผมชอบทำเบียร์ ชอบกินเบียร์ ต่อไปก็จะหาทางออกนะครับ หนึ่งคือทำบาร์ สองคือทำเบียร์ตัวเอง โดยที่บาร์และเบียร์จะเป็นแบบ crowdfunding (ระดมทุนสาธารณะ) ครับ ภาพจาก manageronline   J: แล้ว passion นี้ เกิดมาจากไหนตั้งแต่เมื่อไหร่? เท่า: ตอนนั้นไปเที่ยวนิวยอร์กกับพี่ชาย แล้วก็เดินไปเจอลานกว้าง ไปดื่มเบียร์ เราก็แบบว่า เฮ้ย! นี่เบียร์อะไร มีเบียร์แบบนี้ด้วยเหรอ ซึ่งตอนหลังมารู้ว่ามันคือเบียร์ไอพีเอครับ จากนั้นก็ดื่มมาเรื่อยๆ ครับ แล้วก็เริ่มถลำลึกเข้าไป ประกอบกับเมื่อสัก 5 ปีก่อนกระแสคราฟต์เบียร์บ้านเรากำลังมาก็เลยได้ดื่มมาเรื่อยๆ...

เมื่อกฎหมายแก้ไข ธุรกิจ SME จะมีบทบาทมากขึ้นเกี่ยวกับการผลิตเบียร์รายย่อย จะมีการแข่งขันของอุตสาหกรรมเบียร์มากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ผลิตรายย่อยเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันนี้ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายได้ระบุไว้ว่าจะทำเบียร์ให้ถูกกฎหมาย ต้องผลิตไม่ต่ำกว่า 1,000,000 แกลลอน ต่อปี กฎหมายนี้ไม่ได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ค้ารายย่อย ปัจจุบันตลาดเบียร์ไทยที่ถูกกฎหมายนั้นมีรสชาติที่ซ้ำซากจำเจ และไม่มีการพัฒนาตัวสินค้าแต่อย่างใด (พัฒนาเพียงบรรจุภัณฑ์) เราจึงอยากให้ประชาชนได้รับรู้ว่าเบียร์ ใครๆ ก็ทำได้ คนไทยทำ คนไทยดื่ม คนไทยภูมิใจ

ค่ำคืนวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา Wishbeer ได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งจาก บริษัท Comte de Sibour ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นเลิศในประเทศไทย ให้มีโอกาสได้เข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างพิถีพิถันในรูปแบบ Beer Dinner ที่ห้องอาหาร เดอะ รีเฟล็กชั่นส์ (The Reflexions) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี โดยพระเอกของงานก็คือเบียร์ Estrella Damm ซึ่งเป็นนอกจากจะเป็นเบียร์ชื่อดังจากนครบาร์เซโลนาแล้ว ยังครองตำแหน่งผู้ผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสเปนด้วย งาน Spanish Craft Beer Dinner ครั้งนี้ ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยแนวคิดที่ถูกนำมาใช้พัฒนารายการอาหารทั้ง 5 คอร์สขึ้นมานั้นมีที่มาที่ไปสุดประณีตลึกซึ้งด้วยการให้เชฟได้เริ่มต้นทำความเข้าใจลักษณะเด่นต่างๆ ของเบียร์แต่ละฉลากที่ได้รับการคัดเลือกมาจนถ่องแท้ ก่อนที่จะออกแบบสร้างสรรค์อาหารจานพิเศษซึ่งเห็นว่าเหมาะสมที่สุดกับเบียร์นั้นๆ ขึ้นเป็นการเฉพาะ Chef de Cuisine ที่ได้รับภารกิจดังกล่าวนี้ก็คือคุณ Roxanne Lange เชฟสาวไฟแรงชาวดัตช์ ผู้มากด้วยประสบการณ์จากภัตตาคารระดับมิชลิน สตาร์ และสำหรับงานนี้เราบอกเลยว่าเธอได้บรรจงรังสรรค์เมนูได้อย่างไร้ที่ติ รูปลักษณ์และรสชาติของอาหารแต่ละจานสามารถส่งเสริมจุดเด่นของเบียร์แต่ละประเภทได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เรารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการดื่มเบียร์กับอาหารมื้อค่ำคราวนี้น่าประทับใจยิ่งกว่าครั้งใด เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแล้ว เราได้เริ่มต้นด้วยการจิบเครื่องดื่มต้อนรับซึ่งก็คือ Estrella Damm INEDIT เบียร์ที่หลายคนอาจรู้จักและจดจำในฐานะของ “เบียร์มาดแชมเปญ” ซึ่งอยู่ในขวดขนาดใหญ่ทรงขวดไวน์เบอร์กันดีและโดดเด่นด้วยฉลากรูปดาวดวงใหญ่สีทอง เบียร์ INEDIT นั้นได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่างโรงเบียร์ Estrella Damm และหัวหน้าพ่อครัวฝีมือฉกาจผู้มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างคุณ Ferran Adria เบียร์ INEDIT เป็นเบียร์สไตล์ Light Belgian Wheat ซึ่งก็คือลูกผสมระหว่างเบียร์แบบลาเกอร์และเบลเยียนวีทเอลนั่นเอง เราคิดว่าแม้เบียร์ฉลากนี้จะมีความโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมแน่นและรสชาติสดชื่นกำลังดีด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่การจิบเข้าคู่กับอาหารก็น่าจะส่งเสริมประสบการณ์ให้พิเศษยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดีทีเดียว เราได้รับข้อสรุปยืนยันว่าความคิดนี้ถูกต้องเมื่อคานาเป้จานน้อยได้เดินทางมาถึง ดีงามจริงๆ ถึงตรงนี้เราก็กำลังจะเข้าสู่ส่วนสำคัญกันแล้ว ขอเชิญทุกท่านติดตามชมกันได้เลยว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราใบ้ไว้ก่อนแล้วกันว่ามีเพียบเลยล่ะ COURSE 01 - KING CRAB quinoa salad | edamame | yuzu | edamame dressing | chorizo | daikon Damm Lemon...