Beer RSS
เหตุผล 9 ประการ ที่ทำให้คุณควรเริ่มดื่ม “คราฟต์เบียร์” ตั้งแต่วันนี้เลย
เบียร์เย็นๆ สักแก้วหลังเลิกงานเป็นความสุขที่หลายคนถวิลหากันมาแต่ไหนแต่ไร แต่รู้ไหมว่าอะไรที่เด็ดดวงยิ่งไปกว่านั้นอีก ใช่เลย! “คราฟต์เบียร์” ไงจะใครล่ะและวันนี้เราจะชี้ชัดไปเลยว่าทำไมเจ้าคราฟต์เบียร์ที่ว่า ถึงเป็นคุณค่าที่คุณคู่ควร ภาพจาก : timeout.com รสชาติดีงาม พูดง่ายๆ เลยว่า คราฟต์เบียร์นั้นอร่อยจัดจ้านกว่าน้ำรสเบียร์อันจืดชืดที่ถูกผลิตแบบมุ่งเน้นปริมาณหลายขุม เพราะโรงผลิตคราฟต์เบียร์นั้น ให้ความสนใจกับการทำเบียร์มากกว่าการสร้างแคมเปญการตลาดอย่างมาก คือนอกจากมาตรฐานการผลิตที่พิถีพิถันแล้ว นักทำคราฟต์เบียร์ยังกล้าสร้างสรรค์รสชาติต่างๆ ที่ “หวือหวา” ในหลายมิติอีกด้วย ถ้าคุณมีรสนิยมที่ “นิยมรส” แล้วล่ะก็ คราฟต์เบียร์รอคุณอยู่ หลากหลายตัวเลือก ตามธรรมชาติแล้ว ความหลากหลายนั้นมีความสำคัญอย่างมากในระบบต่างๆ และการมีโอกาสที่จะเลือกนั้นก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นพ้องกันว่าดี เรื่องของเบียร์ก็เช่นกัน หากคุณชายตาหันมามองคราฟต์เบียร์แล้ว จักรวาลแห่งการดื่มเบียร์ของคุณจะเปิดกว้างออกอย่างที่ไม่คาดฝันเลยล่ะ! คราฟต์เบียร์มีตัวเลือกให้คุณมากมาย ทั้งในด้านกลิ่นรส สัมผัส ดีกรีแอลกอฮอล์ กระบวนการผลิต วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรขนาดนี้ เราบอกได้เลยว่าหากคุณลองตามคำแนะนำในการเลือกเบียร์นี้ไป https://www.wishbeer.com/th/blog/easy-steps-to-choose-your-beers-n196 ไม่นานเกินรอ คุณต้องพบคำตอบที่ตามหามานานแน่นอน! วัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศ ขึ้นชื่อว่าคราฟต์เบียร์ วัตถุดิบต้องสดใหม่คุณภาพยอดเยี่ยม ไล่ตั้งแต่น้ำที่ใช้ เมล็ดธัญพืชหรือมอลต์ ยีสต์ ไปจนถึงดอกฮอปส์ คัดกันมาเน้นๆ และถ้าสูตรไหนต้องใช้เยอะก็จัดเต็ม ไม่มีหวงกันเลย เพราะเบียร์ต้องอร่อยที่สุด ไม่มีเจือจางผสมน้ำเปล่ามาให้จืดชืด เปรียบกันโดยทั่วไปแล้วคราฟต์เบียร์ “หมัด” หนักกว่า คราฟต์เบียร์ส่วนมากจะมาพร้อมปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงกว่า “เบียร์ตลาด” ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็เริ่มตั้งแต่ 5% ไปถึง 10% ปลายๆ โน่นเลย (ดูรายการเบียร์ดีกรีแรงได้ที่นี่ https://www.wishbeer.com/th/937-strong-8) นั่นก็หมายความว่าคุณไม่ต้องดื่มคราฟต์เบียร์คราวละลังหรือซดเป็นทาวเวอร์เพื่อให้สนุกครื้นเครงแบบที่เคยทำมา เลือกดื่มคราฟต์เบียร์เพื่อแคลอรีที่ต่ำกว่า หลายคนอาจจะงงกับข้อนี้ แต่อันที่จริงเรื่องราวมันง่ายๆ แบบนี้! จริงอยู่ว่าคราฟต์เบียร์ส่วนมากจะให้พลังงานสูงกว่าเบียร์ทั่วไปตามท้องตลาดอยู่บ้าง แต่เนื่องจากดีกรีที่หนักแน่นและรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้โดยปกติแล้ว ชาวคราฟต์เบียร์จะดื่มปริมาณน้อยกว่าคนที่ดื่มเบียร์ตลาดในการดื่มแต่ละคราว จะเห็นว่าหากในปาร์ตี้หนึ่งๆ คุณจิบคราฟต์เบียร์ที่ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรีไป 3 ขวด พร้อมสุนทรียภาพเต็มเปี่ยม คุณจะได้รับพลังงาน 600 กิโลแคลอรี ในขณะที่คุณอาจต้องดื่มเบียร์ตลาดที่ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรีทั้งหมด 6 ขวด...
สมาคมผู้ผลิตเบียร์เบลเยียม ออกอีโมจิเบียร์จากกว่า 60 ยี่ห้อในประเทศ
ถึงแม้อีโมจิในมาตรฐาน Unicode จะมีรูปของเบียร์อยู่แล้ว แต่ทว่าสมาคมผู้ผลิตเบียร์ของเบลเยียม (Belgian Brewer's Association) กลับมองว่าอีโมจิตัวนั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความหลากหลายของเบียร์ที่แท้จริง จึงได้ออกแอพ Belgian Beer Emojis ที่รองรับทั้ง iOS และแอนดรอยด์ออกมา เพื่อเป็นการสื่อถึงความหลากหลายของเครื่องดื่มประเภทนี้ รวมถึงโฆษณาเบียร์ของเบลเยียมไปในตัว แอพนี้มีอีโมจิมาให้กว่า 60 แบบที่แตกต่างกันไปตามประเภทของเบียร์และยี่ห้อ โดยเบียร์ทั้ง 60 ยี่ห้อจะถูกบรรจุอยู่ในแก้วแบบเฉพาะของแต่ละยี่ห้อด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าแอพนี้มีปัญหาเรื่องการเข้ากันได้ (Compatibility Issues) กับแอพอื่นๆ บางตัวอยู่ด้วย ที่มา - Fortune Source: https://www.blognone.com/node/81901
Boobluge เกมส์ Challenge ใหม่ นมกับเบียร์ สุขใดไหนจะปาน
เห็นแล้วอยากเล่นบ้างขึ้นมาทันที เมื่อไหรที่ไทยเราจะเอามาเล่นกันBoobluge เกมส์ Challenge ใหม่ นมกับเบียร์ สุขใดไหนจะปาน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านๆ มาเรามักเห็น Challenge ต่างๆ ออกมาเป็นกระแสสังคมให้เราเล่นตามกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Ice bucket challenge สาดน้ำแข็งโครมๆ ตลอดจนไปถึง Don’t judge challenge ที่หลายๆ คนเข้าใจผิดแต่งขี้เหร่แล้วมาโชว์ความหน้าตาดีกันเกลื่อนโซเชียล และมาจนถึงวันนี้ได้มี Challenge ใหม่แกะกล่องที่ระบาดกันออกมาให้เราได้ลองกันแล้ว ซึ่ง Men.MThai เรามั่นใจว่าคงโดนใจหนุ่มหลายๆ คนเป็นแน่แท้ โดย Challenge นี้เป็นการรวมสองสิ่งที่ผู้ชายเราโปรดปราน ระหว่างเบียร์ กับ นม …ไม่ใช่นมดื่มนะ แต่นม หน้าอกผู้หญิงนี่แหละ!!! ซึ่ง Challenge นี้มีชื่อว่า Boobluge Challenge นั่นเอง ซึ่งวิธีการเล่นจะให้ฝ่ายหญิงเอามือหนีบหน้าอกของตัวเองให้แนบชิดและหลังจากนั้นก็จะเทเบียร์ลงไประหว่างหน้าอก แล้วให้ฝ่ายชาย ดื่มเบียร์จากร่องนม นั่นเอง ซึ่งการเล่นแบบนี้ไม่ได้ให้ผู้ชายเราสนุกแต่อย่างเดียว แต่สำหรับผู้หญิงแล้วมันก็คือการแข่งขันความใหญ่โตของหน้าอกหน้าใจนั่นเอง ซึ่งเราดูแล้วบอกได้เลยว่ามันคงเป็น Challenge ที่สุดยอดแห่งปี 2016 เลยก็ว่าได้นะ เอาเป็นว่าจะน่าเล่นแค่ไหน เราต้องไปดูคลิปกันเองแล้วครับ Men.MThai เรียบเรียงเนื้อหาต้นฉบับจากhttp://www.theladbible.com/articles/downing-beer-off-a-pair-of-boobs-is-latest-viral-challenge-050616 Source: http://men.mthai.com/men-around/107341.html
งานวิจัยชี้ “การดื่มเบียร์” ช่วยให้ลดน้ำหนัก และปริมาณคอเลสเตอรอลได้!?
งานนี้เหล่านักดื่มทั้งหลายได้มีเฮ!! กันยกใหญ่แน่ๆ เนื่องจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุดได้ชี้ว่า การดื่มเบียร์ นั้นสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้จริงๆ งานวิจัยชิ้นนี้เป็นของ Oregon State University ได้ค้นพบว่าในเบียร์นั้นมีสาร Xanthohumol ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ที่สามารถพบได้ในฮ็อป (พืขที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำเบียร์) โดยมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนัก และลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้!! ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ทำการทดลองโดยใช้หนูทั้งหมด 48 ตัว แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มอย่างละครึ่ง ซึ่งหนูทุกตัวมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน และมีคอเลสเตอรอลสูง ให้อาหารกับพวกมันปกติทั้งสองกลุ่ม แต่กลุ่มหนึ่งจะให้สาร Xanthohumol กินเสริมด้วย วันละ 30-60 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ในทุกๆ วัน เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์เต็ม จากผลการทดลองปรากฏว่า หนูกลุ่มที่ได้รับสาร Xanthohumol มีปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดลดลงไปกว่าร้อยละ 80 แถมน้ำหนักตัวยังลดลงอีกกว่าร้อยละ 22 เลยทีเดียว ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับสารนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น แน่นอนว่าเบียร์ที่คุณดื่มนั้นมีสาร Xanthohumol อยู่ข้างใน แต่ข่าวร้ายก็คือ ถ้าคุณอยากทำให้ได้ผลจริงๆ ล่ะก็ ปริมาณที่คุณจะต้องดื่มเทียบกับน้ำหนักตัวประมาณ 65 กิโลกรัม ยกตัวอย่างเช่น 3,500 ไพน์ หรือประมาณแก้วใหญ่ 3,500 แก้วเลยล่ะ เพื่อจะให้ได้เห็นผลในรูปแบบเดียวกันกับหนูทดลองนั่นเอง เอาเป็นว่ามันก็ดีอยู่หรอกนะที่การจิบเบียร์เย็นๆ ชื่นใจ แก้วโตๆ แล้วยังช่วยให้ลดน้ำหนัก กับ ปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ แต่ถ้าจะต้องดื่มในจำนวนมากขนาดนั้นแล้ว ใครจะไปไหวล่ะ จริงมั้ย? ดังนั้นก็หันมาควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ดีกว่าเนาะ Source: https://daily.rabbit.co.th/เบียร์-ช่วยลดน้ำหนัก/
วิธีการเลือกเบียร์ให้ถูกใจคุณอย่างง่ายๆ
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ปวดหัวเสียเหลือเกินเมื่อเดินเข้าไปในร้านเบียร์แล้วไม่รู้ว่าจะเลือกดื่มเบียร์อะไรดี ?? ปัญหานี้มักเกิดขึ้นเสมอๆ กับเพื่อนๆ นักดื่มหน้าใหม่ที่อาจจะยังไม่รู้จักสไตล์ของเบียร์แต่ละตัวดีมากนัก หรือยังไม่รู้แน่ๆ ว่าเราชอบเบียร์อะไร แต่ก็ไม่ใช่ว่านักดื่มสายแข็งจะไม่เกิดปัญหานี้ เพราะแม้ว่าเราจะเป็นนักดื่มสายแข็งที่ดื่มเบียร์มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำก็ตาม แต่ในบางครั้งเราก็อาจเกิดภาวะสุญญากาศ นึกไม่ออกว่าจะดื่มเบียร์อะไรก็เป็นได้ ดังนั้นวันนี้เราขอนำเสนอวิธีการง่ายๆ สำหรับทั้งนักดื่มหน้าใหม่รวมไปถึงนักดื่มสายแข็ง ในการเลือกเบียร์ให้ถูกใจและเหมาะสมกับการสังสรรค์ในค่ำคืน โดยเราขอเริ่มที่นักดื่มหน้าใหม่กันก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วนักดื่มหน้าใหม่จะเข้าสู่วงการเบียร์ทางเลือกจาก Wheat Beer (เช่น Hoegaarden) ทั้งจากเยอรมนีและเบลเยียม เพราะเป็นที่นิยม หาง่ายและรสชาติก็เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย แต่หากคุณอยากลองอะไรที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เราอยากให้คุณลองถามหาเบียร์สไตล์ Pale Ale (เช่น Day Of The Dead Blond Ale) ไม่ว่าจะเป็น English Pale Ale (เช่น Primator English Pale Ale) หรือ American Pale Ale (เช่น Lervig Lucky Jack) ก็ได้ แต่จะมีจุดแตกต่างของเบียร์ทั้ง 2 ประเภทเล็กน้อยคือ English Pale Ale จะเน้นกลิ่นและรสชาติของมอลต์ ส่วน American Pale Ale จะให้กลิ่นและรสของฮอปส์ที่มากกว่า หากคุณเบื่อเบียร์สีเหลืองทองแล้วอยากลองเบียร์สีเข้มกันบ้าง เราแนะนำให้คุณลองสั่งเบียร์ Dubbel (เช่น Rochefort 6) จากเบลเยียม หรือ Dunkel (เช่น Weihenstephaner Bavarian Dark) จากเยอรมนีมาลองก็น่าสนใจดี เพราะรสชาติและระดับแอลกอฮอล์จะไม่เข้าถึงยากจนเกินไป หรืออาจขยับมาลองเป็นเบียร์ในกลุ่ม Stout ที่เรียกว่า Dry Stout อย่าง Guinness หรือ Murphy’s Stout ก็น่าสนใจเพราะเบียร์จะมีการใช้ก๊าซไนโตรเจนเข้ามาช่วยทำให้ฟองเบียร์มีความหนานุ่มคล้ายครีมนมในกาแฟ ทำให้ได้รสชาตินุ่มละมุ่นเป็นอยากยิ่ง แต่หากใครที่อยากชกข้ามรุ่นไปลองเบียร์ที่แรงขึ้นมาหน่อย เราขอแนะนำเบียร์สไตล์ Weizenbock (เช่น Schneider Weisse Tap 6) จากเยอรมัน หรือ Tripel จากเบลเยียมซึ่งจะมีระดับแอลกอฮอล์ที่สูงมากขึ้น แต่ยังคงรสชาติที่นุ่มนวล แต่ก็เมาเอาเรื่องนะครับ ส่วนนักดื่มสายแข็ง ซึ่งเราเชื่อว่าคุณน่าจะผ่านสมรภูมิมาพอสมควร...