แก้วเบียร์ 5 แบบ ที่คุณควรรีบคว้ามาครอง

ภาพจาก : sf.hopsy.beer

เมื่อคุณได้เปิดประตูเข้าสู่โลกของคราฟต์เบียร์แล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตเห็นได้แทบจะทันทีก็คือความหลากหลายของภาชนะที่รองรับเบียร์ชนิดต่างๆ ที่ดูราวกับว่ามากมายจนไม่อาจเข้าใจได้หมด และถึงอยากจะมีไว้ใช้ที่บ้านก็ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี (ดูแก้วที่คุณอาจสนใจทั้งหมดได้ที่นี่ Glassware) วันนี้เราจึงจะมาแนะนำแก้วแบบหลักๆ 5 แบบด้วยกันที่เราคิดว่าคุณควรจะหาติดชั้นวางส่วนตัวของคุณไว้ และใช้มันเติมเต็มประสบการณ์ของคุณในครั้งต่อไปที่สบโอกาสดื่มคราฟต์เบียร์

ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่า ในการทดลองปิดตาชิมเบียร์หลายต่อหลายครั้ง แก้วเบียร์แต่ละชนิดให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันน้อยมากจนราวกับว่าไม่สลักสำคัญนัก และความต่างนั้นก็แปรผันตามขนาดปากแก้วเสียมากกว่ารูปแบบการโค้งเว้าและความสูง อย่างไรก็ดี คอเบียร์อย่างเราทราบกันดีว่าองค์รวมของการดื่มแต่ละครั้งนั้นส่งผลอย่างมากต่อการรับรู้ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้วเบียร์ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในแง่ของลักษณะปรากฏของเบียร์ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน ความขุ่นมัว หรือมิติและรูปทรงโดยรวมของเบียร์ที่โค้งงอนหรือยืดสง่าไปตามทรวดทรงของแก้วที่ใช้ เบียร์แต่ละประเภทเมื่อถูกเสิร์ฟในแก้วแต่ละแบบจึงมอบความรู้สึกที่ต่างกัน และนั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ

1. แก้วไพนท์ทรงโนนิค (Nonic Pint)

แก้วชนิดนี้ก็คือหนึ่งใน 4 ทรงหลักของแก้วไพนท์ อันประกอบด้วย 1. แก้วไพนท์ทรงโคนแบบทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันดี 2. ทรงทิวลิปที่ดูมีความอรชรคล้ายแก้วเบียร์ดำยี่ห้อกินเนส  3. ทรงเหยือกหรือ “แก้วมัก”(แก้วมีหูจับ) และ 4. ทรงโนนิค โดยเจ้าแก้วทรงโนนิคที่หยิบมาแนะนำนี้เป็นแบบที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัวเพราะมันเรียบง่ายแต่ “ดูมีอะไร” แก้วโนนิคมีถิ่นกำเนิดอยู่ในสหราชอาณาจักรและได้ถูกออกแบบมาอย่างละเอียดลออและมีหลักการ โดยแก้วแบบนี้จะป้องกันปัญหาปากแก้วบิ่นจากการเบียดเสียดและกระแทกกันในที่เก็บได้ดีมาก ลดอัตราการแตกร้าวเมื่อแก้วล้ม จับประคองง่ายเมื่อใช้ดื่ม และยังสะดวกต่อการล้างทำความสะอาดด้วยนะ ข้อดีเหล่านี้ทำให้แก้วโนนิคค่อนข้างมีความอเนกประสงค์อย่างมาก แต่ข้อด้อยเล็กน้อยก็คืออาจไม่เหมาะกับการใช้จิบเบียร์ที่โดดเด่นในเรื่องกลิ่นมากเท่ากับแก้วบางประเภทนั่นเอง

2. แก้วทิวลิป (Tulip)

แก้วเบียร์ทรงดอกทิวลิปนี้เหมาะเจาะมากสำหรับเบียร์ที่โดดเด่นในเรื่องความซับซ้อนของกลิ่น เป็นต้นว่า สก็อตติชเอล เบลเยียนเอล ดับเบิ้ลไอพีเอ และจำพวกบาร์เลย์ไวน์ เนื่องจากทรงตุ้มที่รองรับน้ำเบียร์ไว้อย่างหนาแน่นและปากแก้วที่บานเล็กน้อยเอื้อให้เบียร์เกิดฟองหนานุ่มที่ช่วยกักเก็บกลิ่นหอมไว้ได้ดี คอคราฟต์เบียร์จำนวนมากจึงเห็นพ้องต้องกันว่าหากคุณมีงบประมาณจำกัด และกำลังมองหาแก้วเบียร์ประจำตัวแล้วล่ะก็ แก้วทิวลิปก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดแล้ว (ลองค้นหาตัวอย่างแก้วทรงทิวลิปได้ที่นี่ Chouffe Glass)

3. แก้วพิลสเนอร์ (Pilsner)

แก้วแบบพิลสเนอร์นั้นก็นับว่าเป็นหนึ่งในแก้วสารพัดประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากทรวดทรงสูงชะลูดแบบนี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเมื่อใช้เสิร์ฟเบียร์ลาเกอร์สีอ่อนแบบอื่นๆ ด้วย โดยจะขับให้เห็นสีที่มีมิติและความสดใสจากแก๊สที่พุ่งทะยานจากก้นแก้วได้อย่างดีเยี่ยม แก้วพิลสเนอร์ที่เราชอบนั้นช่วงปลายปากแก้วควรจะแคบลงเล็กน้อยเพื่อโอบฟองเบียร์เอาไว้ให้คงอยู่นานอีกนิดหน่อยด้วยแต่เอาเข้าจริงแล้วหากปากแก้วไม่แคบลงก็ไม่ได้ถึงกับคอขาดบาดตายหรอกนะ

4. แก้วไวเซ่น (Weizen)

แก้วที่มีทรวดทรงองค์เอวสุดพลิ้วนี้มีที่มาจากเยอรมนี โดยถูกสรรค์สร้างขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟวีทเบียร์เป็นการเฉพาะ แก้วไวเซ่นมีฐานที่แคบกว่าช่วงบนซึ่งขยายออกเพียงเล็กน้อยในเส้นสายที่ต่อเนื่องกันไป เพื่อให้ส่วนบนของแก้วโอบอุ้มฟองหนานุ่มและกลิ่นหอมของวีทเบียร์ได้ดี ดังนั้นเบียร์ที่น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับแก้วแบบนี้ก็คือ วีทเบียร์แบบเบลเยี่ยม และเฮเฟอไวเซ่นแบบเยอรมันนั่นเอง บอกไว้เลยว่าคอวีทเบียร์ต้องมีไว้หลายๆ ใบ (ลองค้นหาตัวอย่างแก้วทรงไวเซ่นได้ที่นี่ Hitachino)

5. แก้วเทกุ (Teku)

แก้วแบบเทกุเป็นแก้วที่เรียกได้ว่าอายุอานามไม่มากมาย และค่อนข้างร่วมสมัยมากทีเดียวในโลกของการดื่มเบียร์ อย่างไรก็ตาม อันที่จริงในทางเทคนิคแล้วมันก็คือการ “ต่อยอด” มาจากแก้วทิวลิปนั่นเอง แต่ก้านที่ยืดยาวออกมานั้นนอกจากจะสวยและดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยแล้ว ยังช่วยให้ผู้ดื่มไม่ต้องวางมือใกล้น้ำเบียร์และอาจทำให้เบียร์สูญเสียความเย็นฉ่ำลงอย่างรวดเร็วเกินไปด้วย และเช่นเดียวกับแก้วโนนิคที่พูดถึงข้างต้น เราเองก็ติดใจความเรียบง่ายแต่ “ดูมีอะไร” ของเจ้าแก้วเทกุนี้อยู่พอตัวเลยล่ะ (ลองค้นหาตัวอย่างแก้วทรงเทกุได้ที่นี่ Prearis Glass)