ถึงกับซึ้ง!! ไวน์ที่แพงที่สุดในโลกประจำปี 2017

ถึงกับซึ้ง!! ไวน์ที่แพงที่สุดในโลกประจำปี 2017

ไวน์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนานนับหมื่นปีแล้ว และในช่วงที่สังคมเริ่มมีอารยะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไวน์ก็ได้ถูกดื่มด่ำโดยชนชั้นนำของอาณาจักรมากมาย ดังนั้นไวน์จึงได้รับการพัฒนาอย่างสูงตั้งแต่ในด้านการผลิตไปจนถึงธรรมเนียมการบริโภค อย่างที่เราทราบกันดีว่าในโลกของเรานั้นมีการศึกษาต่อยอดองค์ความรู้เกี่ยวกับไวน์ในทุกมิติอย่างลึกซึ้ง และไวน์ก็ถูกผูกติดเข้ากับภาพลักษณ์ที่หรูหราโอ่อ่าและความสำเร็จทั้งในด้านชื่อเสียง เงินตรา และสติปัญญา ดังนั้นการที่ไวน์ชั้นเยี่ยมจะเป็นเครื่องดื่มที่มีราคาสูงจึงไม่ใช่เรื่องที่ฟังดูแปลกนัก อย่างที่คงพอจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าผู้มากด้วยบารมีบางคนดื่มไวน์ราคาขวดละเป็นหมื่นเป็นแสนกันเป็นประจำ

แต่ช้าก่อน!

วันนี้เราจะมาพูดถึงบรรดาไวน์ตัวท้อปของโลกที่มีราคาค่าตัวสูงเสียดฟ้าไปกว่านั้นมากจำนวน 5 ฉลากด้วยกันและถึงแม้เราจะจั่วหัวว่าเป็นไวน์แพงประจำปี 2017 แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าไวน์เหล่านี้ต่างก็ไม่ใช่ไวน์ช้างเผือกวัยกระเตาะแต่อย่างใด หากแต่ล้วนแล้วมีอายุอานามหลายทศวรรษทั้งสิ้น ประมาณว่าเป็นดาวค้างฟ้าดาราพันปีที่มีคุณค่าต่อจิตใจอะไรทำนองนั้นกันเลยทีเดียว

ก่อนจะไล่เรียงกันไป ต้องบอกไว้ด้วยว่าขณะที่เราเขียนอยู่นี้ ค่าเงินบาทกำลังแข็งเป๊กเลยล่ะ (ขนาดแข็งแล้วยังซึ้ง!)

อันดับที่ 5

Chateau Margaux 1875 / สนนราคาประมาณ 7,660,000 กว่าบาท

ไวน์ยี่ห้อดังระดับต้น ๆ ของโลกในปัจจุบัน ที่ใครได้ชิมก็คงต้องบอกว่าทำบุญมาดีจริง! เอาเฉพาะไวน์คุณภาพชั้นเลิศที่สำนักนี้ผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นการทั่วไปก็มีราคาราว ๆ ขวดละ 50,000 – 60,000 บาทเข้าไปแล้ว (ถ้าเป็นแถวนี้ก็เฉียดแสนล่ะ) ทีนี้ เรื่องที่นำมาซึ่งความแพงหนักเข้าไปอีก (และออกจะเศร้าหนักมาก) ก็คือในปี 1989 มีพ่อค้าชื่อ William Sokolin ได้ประมูลไวน์ขวดหนึ่งมาครองในราคาประมาณ 5,300,000 บาท ไวน์เจ้ากรรมขวดนี้ซึ่งถูกพบอยู่หลังกำแพงในห้องเก็บไวน์แห่งหนึ่งในปารีสก็คือ Chateau Margaux ปี 1875 ซึ่งเคยเป็นสมบัติของ Thomas Jefferson ผู้ยิ่งใหญ่มาก่อนนั่นเอง

ในฐานะพ่อค้าไวน์เขาจึงอดไม่ได้ที่จะดีใจลิงโลดขนาดหนักและประเมินราคาไว้ว่าน่าจะขึ้นไปได้ถึงประมาณ 17 ล้านบาทกว่า ๆ (ในขณะนั้น!)

เรื่องเศร้าบังเกิดขึ้นเมื่อเขาได้เชิญบรรดาเจ้าของบริษัท Chateau Margaux ในตอนนั้นมาร่วมสังสรรค์ที่บ้าน และได้หยิบไวน์สุดเทพขวดนี้ออกมาแสดงอย่างภาคภูมิใจ เขาได้เริ่มเดินไปรอบห้องเพื่ออวดโฉมเจ้าไวน์ขวดนี้ต่อบรรดาแขกเหรื่อในงาน ทว่าในจังหวะเวลาแห่งความปลื้มปีตินั้นความประมาทก็บังเกิด ขวดไวน์อายุ 114 ปีดันไปกระแทกเข้ากับเก้าอี้ตัวหนึ่งจนทำให้ขวดแตกเป็นรูใหญ่ถึง 2 แห่งด้วยกันพร้อมกับไวน์ที่หกเรี่ยราดไปทั่วพื้นห้อง งานเลี้ยงจึงจบลง

งานนี้บริษัทประกันภัยยอมจ่ายให้เป็นเงิน 225,000 เหรียญ หรือตีเป็นค่าเงินปัจจุบันก็ราว 7,660,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง (เอาเข้าจริงก็คงไม่ย่ำแย่ถึงขีดสุดกระมัง เพราะตา William ก็กำไรนิดหน่อยอยู่ดีนั่นแหละ)

อันดับที่ 4

Chateau Lafite / สนนราคาประมาณ 7,900,000 กว่าบาท

งานประมูลระดับโลก Sotheby ประจำปี 2010 ในประเทศจีนนั้นเรียกเสียงฮือฮาอย่างหนักจากวงการไวน์ เนื่องจากมีการประมูลไวน์ของ Chateau Lafite ปี 1869 ซึ่งเปิดมาด้วยราคาขวดละประมาณ 270,000 บาท แต่การแข่งขันนั้นร้อนแรงจัดมากจนกระทั่งมีการดันราคาไปสิ้นสุดลงที่ขวดละเกือบ 8 ล้านบาทเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ อาเฮียผู้ชนะการประมูลสำหรับไวน์ฉลากนี้ก็ได้จัดหนักจัดเต็มประมูลเหมาไวน์ฉลากนี้กลับบ้านไปถึง 3 ขวด หมดงานกันไป 

อันดับที่ 3

1907 Heidsieck / สนนราคาประมาณ 9,360,000 กว่าบาท

อันที่จริงแล้ว Heidsieck เป็นแชมเปญ (ไม่ใช่ไวน์) แต่ในรายการราคาระดับนี้เราก็พอจะนับรวม ๆ กันไว้ได้กระมัง

เรื่องราวมีอยู่ว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เรือดำน้ำของเยอรมนีลำหนึ่งได้โจมตีเรือส่งสินค้าของสวีเดนซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปส่งของยังราชสำนักของซาร์นิโคลัสที่ 2 จนอับปางลงไปนอนอยู่ก้นอ่าวฟินแลนด์ จริงอยู่ว่าไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บใด ๆ เนื่องจากทหารเยอรมันอนุญาตให้สละเรือออกไปจนหมดก่อนที่จะกดตอร์ปิโดเข้าใส่ (แหม ขอบคุณนะ)

เรือลำนี้จมอยู่อย่างนั้นถึง 80 ปี ก่อนที่จะถูกกู้ขึ้นมาในปี 1997 และได้เผยโฉมสินค้าที่อยู่ภายใน ในบรรดาสิ่งต่าง ๆ ที่ได้กลับสู่แผ่นดินเหล่านั้น มีแชมเปญปนอยู่ราว 2,000 ขวดด้วย ในจำนวนนั้นมีอยู่ประมาณ 1,000 ขวดที่ยังคงดื่มได้และถูกวางขายในราคาขวดละ 9 ล้านกว่าบาทตามโรงแรมล้ำ ๆ บางแห่งและงานประมูลเฉพาะกลุ่ม

อันดับที่ 2

1947 Cheval-Blanc / สนนราคาประมาณ 10,300,000 กว่าบาท

ในปีที่ Chateau Cheval Blanc ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่เลวร้ายอย่างหนักจนกระทั่งการผลิตไวน์เสียหายแทบทั้งหมดตั้งแต่การเพาะปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตและจัดเก็บไวน์นั้น มีไวน์บางถังที่หลงรอดมาได้โดยที่ไม่บูดเน่าไปเสียก่อนและได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น ไวน์เหล่านี้มีรสชาติที่ดีมากและได้รับการยอมรับจากนักชิมไวน์ว่าเป็นหนึ่งในไวน์บอร์กโดซ์ที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ชื่อชั้นเช่นว่านี้ส่งผลให้ไวน์ฉลากนี้ถูกประมูลไปในราคาสูงถึงกว่า 10 ล้านบาท ที่งานประมูล Christies ในเจนีวาเมื่อปี 2010 ทั้ง ๆ ที่ ก่อนหน้านั้นไม่กี่ปีราคาของไวน์ฉลากนี้เคยอยู่ที่เพียงหลักแสนเท่านั้น

นอกจากนี้แล้ว ในปี 2008 ยังมีผู้โชคดีส้มหล่นสุด ๆ คนหนึ่ง ที่ได้ซื้อไวน์ชุดนี้ไป 1 ลังในราคาเพียงเกือบ ๆ 5 ล้านบาท ในขณะที่หากคำนวณอ้างอิงตามราคาล่าสุดแล้ว ไวน์ลังนี้น่าจะมีราคาสูงถึงกว่า 122 ล้านบาทเลยทีเดียว

อันดับที่ 1

Screaming Eagle Cabernet 1992สนนราคาประมาณ 17,000,000 กว่าบาท

ไวน์ขนาด 6 ลิตร ที่มีราคาขวดละ 17 ล้านบาทนี้เป็นไวน์ตัวท้อปน้องใหม่ (มาก) ที่ได้รับการรีวิวให้คะแนนสูงที่สุดฉลากหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ผู้ผลิตได้นำออกมาจำหน่ายเพียงแค่ 175 ลังต่อรอบเท่านั้น และในปีหลัง ๆ มานี้ จำนวนที่ว่าก็ยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ

ตามปกติแล้ว ไวน์ฉลากนี้ไม่ได้มีราคาที่สูงลิบลิ่วถึงเพียงนี้ หากแต่ว่าราคา 17 ล้านที่ได้มานั้น เกิดขึ้นในงานประมูลเพื่อการกุศลของบรรดาเหล่าเศรษฐีเมื่อปี 2000 นั่นเอง

เรื่องอะไรที่ดีต่อใจ พอตีค่าออกมาเป็นเงินก็สูงแบบนี้แหละ ซึ้งไหมล่ะ!


Leave a comment

x

STAY UP TO DATE

Submit your email to get updates on products and special promotions.