เรื่องราวของเฮิทสเตอร์เซซอง

เรื่องราวของเฮิทสเตอร์เซซอง

Hurtster Saison Story

HURTSTER STORY

เฮิทสเตอร์ เซซอง เป็นเบียร์ตัวเเรกที่คิดจะทำขายจริงๆ จังๆ อุทิศเเด่พี่เอกดนัย วงษ์วัฒนะ รุ่นพี่คณะนิติศาสตร์ผู้เป็นเเรงบันดาลใจให้ผมคิดนอกกรอบ นักกิจกรรมตัวยง นักรักผู้พบเเต่ความผิดหวัง ถึงแม้จะมีสาวๆ ห้อมล้อมอยู่รอบกายเเละเข้าหาเสมอด้วยความลึกเละความเท่ เเต่ท้ายที่สุดเเล้ว ก็คว้าน้ำเหลวเรื่อยมา
เบียร์เซซองเป็นเบียร์สไตล์เบลเยี่ยมที่โดยประเพณีแล้วจะดื่มหลังจากการเก็บเกี่ยว เป็นเบียร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดชื่น ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการใช้เเรงงานหนักมาทั้งวัน ด้วยรสชาติที่ดราย มีรสยีสต์ ออกผลไม้ มีรสเปรี้ยวออกมาตามหลัง น้ำเบียร์ที่บาง ระดับความซ่าที่มาก จึงเป็นเบียร์ที่จะทำให้ คนHurt Hurt ดื่มเเล้วกลับมาสดชื่นเเละพร้อมลุกขึ้นเผชิญความผิดหวังใหม่อีกครั้ง ชีวิตมันก็เช่นนี้ ที่ Taopiphop’s Ale Project เราเชื่อว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเสมอ

Hurtster Saison Story

ทำความรู้จักกับเบียร์ Saison กันซักหน่อยดีกว่า

เซซองเป็นเบียร์เอลสไตล์เบลเยี่ยม มีเอกลักษณ์จากรสชาติและกลิ่นของยีสต์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเบียร์ที่เหมือนเป็นเวทีให้ยีสต์ได้โชว์นั่นเอง เบียร์มีความฟรุ๊ตตี้และยีสตี้ ทั้งยังมีรสผลไม้และเปรี้ยวตามมาบางครั้ง ที่ประวัติความเป็นมาของเซซองถูกผูกติดกับวิถีชีวิตกสิกรรมของชาวเบลเยี่ยม เพราะเป็นเบียร์ที่เดิมทีจะถูกผลิตเก็บไว้เพื่อดื่มในฤดูเก็บเกี่ยวหลังจากจบงานในแต่ละวัน เบียร์จึงต้องดื่มง่ายเพื่อให้เหมาะกับฤดูกาลและอากาศในขณะนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเบียร์ Saison ซึ่งแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ฤดูกาล

เซซองหรือเบียร์ชาวนา มีต้นกำเนิดจากบริเวณWallonia ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้คนพูดภาษาฝรั่งเศส(อีกที่พูดFlemish) โดยเบียร์จะถูกผลิตไว้เพื่อเลี้ยงเหล่า Saisonniere หรือภาษาไทยเราจะเรียกง่ายๆก็คงจะประมาณ คนงานรับจ้างเก็บเกี่ยวหรือคนช่วยงานลงแขก เซซองจึงเป็นเบียร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนธรรมดาที่ไม่ได้ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองแต่เป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยความสุข ปัจจุบันเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยที่คนอเมริกันจะเรียกกันในชื่อFarmhouse Ale เพื่อบ่งบอกคาแร็คเตอร์ของเบียร์ในสไตล์นี้ที่บางครั้งก็มีกลิ่นอับ(Funky) ของโรงนานั่นเอง

Hurtster Saison Story

เซซองโดยปกติแล้ว จะใช้มอลต์พิลเนอร์(Pilsner Malt)เป็นหลักทำให้สีอ่อน แต่ก็มีหลายตัวที่ผสมข้าวมอลต์สาลี(Wheat Malt)หรือข้าวสาลีธรรมดา(Unmalted Wheat)เข้าไปด้วยเกินกว่า50%ก็ได้ โดยอาจจะมีมอลต์อื่นอย่าง Munich Malt หรือมอลต์อื่นๆ เพื่อบอดี้และรสชาติด้วยก็ได้ โดยได้ความขมเล็กน้อยจากฮอปส์ตระกูลคลาสสิคของยุโรปเช่นพวก Saaz ,Styrian Golding ,Kent Golding โดยจะใช้ฮอปส์ที่มีAlpha Acidต่ำ เพื่อไม่ให้เบียร์ขมเกินไปเพราะตัวเบียร์เองจะเหลือน้ำตาลไว้น้อยมาก ถ้าใส่ฮอปส์เยอะเกินจะทำให้มีรสขมไปเพราะไม่มีความหวานมาบาลานซ์นั่นเอง อีกทั้งจะทำลายรสชาติที่ยีสต์ผลิตด้วย ส่วนเรื่องยีสต์นั้นเซซองค่อนข้างเป็นอะไรที่เฉพาะตัว มีหลายคนใช้ยีสต์จำพวกWeizen ในการทำแต่ก็เหมือนจะไม่ได้คาแร็คเตอร์ของยีสต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์จริงๆ ซึ่งในความเห็นของผม ผมคิดว่าLallemand Belle Saison ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งในไทยก็มี www.hopshubbkk.com ที่เอามาจำหน่ายเรื่อยๆ

Hurtster Saison Story

เซซองก็จะมีความหลากหลายโดยแบ่งตามความแรงตามแอลกอฮอลล์ได้เช่นกัน เบาสุดจะเรียกว่ากริซเซ็ท(Grisette) เบียร์แอลกอฮอลต่ำประมาณ4% มีกลิ่นฮอปส์มากกว่าเซซองธรรมดา ใช้ Wheat malt เพื่อนเพิ่มบอดี้ไม่ให้เบียร์ดูโหลง ทำขึ้นเพื่อชาวเหมืองโดยเฉพาะแตกต่างกับเซซอง และยังมีอีกสไตล์ย่อย Biere de garde ซึ่งจะเป็นเซซองเวอร์ชั่นที่มีแอลกอฮอลล์สูงนั่นเอง จะให้รสชาติแอลกอฮอล์อุ่นๆ และดรายมาก โดยมากจะรอเวลาบ่ม(Aging) เป็นปีๆ ใจไม่แข็งอย่าลอง
ก็ได้รู้จักกับสไตล์เซซองแบบคร่าวๆไปแล้ว ซึ่งเราก็สามารถหามาลองได้ โดยยี่ห้อที่แนะนำก็จะเป็นSaison Dupont, Boulevard Tank 7 Farmhouse Ale, Fantome Saison และแน่นอน Taopiphop Ale Project Hurtster Sasion

อ้างอิงข้อมูลจาก http://taopiphopaleproject.wtf/th/hurtster/


Leave a comment

x

STAY UP TO DATE

Submit your email to get updates on products and special promotions.