เรื่องเบียร์ “ลาเกอร์” ที่คุณอาจยังไม่รู้

เรื่องเบียร์ “ลาเกอร์” ที่คุณอาจยังไม่รู้

 

ภาพจาก kegerator

 

  • เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่คอเบียร์ชาวไทยจำนวนไม่น้อยกำลังเริ่มมีความตื่นตัวเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่เปรียบได้กับของขวัญจากพระเจ้าชนิดนี้มากขึ้นทุกขณะ แต่ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากตลาดเบียร์ประเภทลาเกอร์ (Lager beer)ในบ้านเรามีความเคลื่อนไหวสำคัญๆ เกิดขึ้น เราก็ได้ค้นพบว่ายังมีนักดื่มอีกจำนวนมากมายจริงๆ ที่มีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนหรืออาจจะคลาดเคลื่อนไปเลยเกี่ยวกับเรื่องเบียร์ลาเกอร์โดยมากมักจะคิดกันไปว่าเบียร์ลาเกอร์มีแบบเดียวคือสีทองใส รสซ่า มีรสชาติไม่ซับซ้อน “หอมหวานทานง่าย” หรือ “รสนุ่มบางเบา” อะไรทำนองนั้น แตกต่างจากเบียร์เอลที่มีสีเข้ม แรงและรสจัด ผิดเต็มประตู! เบียร์ลาเกอร์มีอะไรมากกว่านั้นเยอะ

 

  • จริงอยู่ว่าเมื่อพิจารณาจากปริมาณการขายแล้ว เบียร์ลาเกอร์ที่วางขายเป็นส่วนมากในโลกนี้จะเป็นเบียร์ที่สีทองใสซ่าและรสบางในแบบอเมริกันหรืออินเตอร์ฯ เพลลาเกอร์ (เบียร์ลาเกอร์สีจาง) ซึ่งเป็นประเภทย่อยของเบียร์ที่หมักด้วยยีสต์สายพันธุ์ลาเกอร์เท่านั้น

 

  • คำว่า “ลาเกอร์” (Lager) มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า ห้องเก็บของ ห้องกักกัน ห้องเก็บรักษา คำกริยาในภาษาอังกฤษที่ว่า Lagering หมายถึงการหมักและบ่มเบียร์ในห้องเย็น (ยีสต์สายพันธุ์ที่ใช้ทำเบียร์ลาเกอร์ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำ) โดยในอดีตจะมีการขุดหลุมให้เป็นห้องเก็บเบียร์ซึ่งจะมีการนำเอาน้ำแข็งจากแม่น้ำลำธารในละแวกใกล้เคียงมาใส่ไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิเบียร์ให้ต่ำในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาได้ดีและรากไม่หยั่งลึกนักเอาไว้ข้างบนเพื่อบังแดดด้วย (มีโรงเบียร์ในยุโรปหลายแห่งที่ยังคงดูแลหลุมถ้ำเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดี และคุณสามารถเข้าชมได้ ในบางแห่งคุณอาจนั่งดื่มกินในถ้ำพวกนี้ได้ด้วย)

 

  • ในสมัยหนึ่ง พิลสเนอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในเบียร์เพลลาเกอร์ เคยถูกมองว่าเป็นเบียร์ยุคใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักทำเบียร์ได้ใช้ดอกฮอปส์จำนวนมาก และในปัจจุบันมีพิลสเนอร์จากโรงคราฟต์เบียร์มากมายที่อัดแน่นไปด้วยฮอปส์ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ดังนั้นเบียร์พิลสเนอร์แต่ละยี่ห้อจึงมอบความพึงพอใจที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายของดอกไม้ใบหญ้า หรือน้ำผึ้งและผลไม้ต่างๆ นานา

 

  • เบียร์ “พอร์เตอร์บอลติก” เป็นเบียร์ที่มีคำว่าพอร์เตอร์ในชื่อ ผู้คนจึงมักคิดว่าเป็นเบียร์เอล แต่อันที่จริงเป็นเบียร์ลาเกอร์ เบียร์สไตล์นี้มีรสแน่นข้นจัดจ้านมาก คล้ายนมช็อคโกแลตผสมเครื่องเทศ ผลไม้สีเข้ม กากน้ำตาล ฉาบด้วยความเผ็ดร้อนจากแอลกอฮอล์

 

  • เบียร์ลาเกอร์แบบ “ไอส์บ็อค” (Eisbock) มีดีกรีสูงพอที่จะทำให้คุณเมาได้ภายในการดื่ม 1-2 แก้วเท่านั้น กรรมวิธีคือนักต้มเบียร์จะให้เบียร์ผ่านจุดเยือกแข็งเพื่อแยกน้ำออกจากเบียร์ สิ่งที่คงเหลืออยู่จึงเป็นเบียร์“ตัวกลั่น” ทั้งนั้น รสจัดแน่นแต่ดื่มได้ไม่ยากเกินไป มอลต์หนักแน่นและนุ่ม รับประกันความแรง

 

  • ยังมีเบียร์ประเภทลาเกอร์อีกหลายชนิดย่อยๆ ที่มีรสจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น Rauchbier (เบียร์รมควัน / ไม่ได้รมด้วยควันตรงตัวตามชื่อเรียก แต่มีการใช้มอลต์ผ่านไฟเป็นวัตถุดิบ), Amber Kellerbier Munich Dunkel, Schwarzbier และอื่นๆ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีลาเกอร์สไตล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลกของคราฟต์เบียร์อีก เช่น อินเดียเพลลาเกอร์ เป็นต้น

 

  • ยีสต์สายพันธุ์ที่ใช้ทำเบียร์ลาเกอร์เป็นยีสต์ที่ไม่แสดงตัวตนเกินหน้าเกินตาวัตถุดิบอย่างอื่นๆ ในสูตรทำเบียร์ จึงทำให้ไม่บดบังคุณลักษณะของธัญพืชและดอกฮอปส์ที่ผู้ผลิตเลือกใช้ ยีสต์กลุ่มนี้แม้จะมีผลต่อเล็กน้อยต่อรสของมอลต์แต่เบียร์ก็ยังคงมีลักษณะกระจ่างชัดเจนอยู่ดี (เมื่อเทียบกับผลลัพธ์จากยีสต์ที่ใช้ทำเอล) ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว เบียร์ลาเกอร์จึงถูกมองว่ามีลักษณะทั่วไปที่สดใสซาบซ่านและสะอาดปากคอ

1 comment

  • No author

    Furrealz? That’s masollvurey good to know.

Leave a comment

x

STAY UP TO DATE

Submit your email to get updates on products and special promotions.