เบียร์เย็นๆ สักแก้วหลังเลิกงานเป็นความสุขที่หลายคนถวิลหากันมาแต่ไหนแต่ไร แต่รู้ไหมว่าอะไรที่เด็ดดวงยิ่งไปกว่านั้นอีก ใช่เลย! “คราฟต์เบียร์” ไงจะใครล่ะและวันนี้เราจะชี้ชัดไปเลยว่าทำไมเจ้าคราฟต์เบียร์ที่ว่า ถึงเป็นคุณค่าที่คุณคู่ควร

ภาพจาก : timeout.com

1.      รสชาติดีงาม

พูดง่ายๆ เลยว่า คราฟต์เบียร์นั้นอร่อยจัดจ้านกว่าน้ำรสเบียร์อันจืดชืดที่ถูกผลิตแบบมุ่งเน้นปริมาณหลายขุม เพราะโรงผลิตคราฟต์เบียร์นั้น ให้ความสนใจกับการทำเบียร์มากกว่าการสร้างแคมเปญการตลาดอย่างมาก คือนอกจากมาตรฐานการผลิตที่พิถีพิถันแล้ว นักทำคราฟต์เบียร์ยังกล้าสร้างสรรค์รสชาติต่างๆ ที่ “หวือหวา” ในหลายมิติอีกด้วย ถ้าคุณมีรสนิยมที่ “นิยมรส” แล้วล่ะก็ คราฟต์เบียร์รอคุณอยู่

2.      หลากหลายตัวเลือก

ตามธรรมชาติแล้ว ความหลากหลายนั้นมีความสำคัญอย่างมากในระบบต่างๆ และการมีโอกาสที่จะเลือกนั้นก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นพ้องกันว่าดี เรื่องของเบียร์ก็เช่นกัน  หากคุณชายตาหันมามองคราฟต์เบียร์แล้ว จักรวาลแห่งการดื่มเบียร์ของคุณจะเปิดกว้างออกอย่างที่ไม่คาดฝันเลยล่ะ! คราฟต์เบียร์มีตัวเลือกให้คุณมากมาย ทั้งในด้านกลิ่นรส สัมผัส ดีกรีแอลกอฮอล์ กระบวนการผลิต วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรขนาดนี้ เราบอกได้เลยว่าหากคุณลองตามคำแนะนำในการเลือกเบียร์นี้ไป https://www.wishbeer.com/th/blog/easy-steps-to-choose-your-beers-n196 ไม่นานเกินรอ คุณต้องพบคำตอบที่ตามหามานานแน่นอน!

3.      วัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศ

ขึ้นชื่อว่าคราฟต์เบียร์ วัตถุดิบต้องสดใหม่คุณภาพยอดเยี่ยม ไล่ตั้งแต่น้ำที่ใช้ เมล็ดธัญพืชหรือมอลต์ ยีสต์ ไปจนถึงดอกฮอปส์ คัดกันมาเน้นๆ และถ้าสูตรไหนต้องใช้เยอะก็จัดเต็ม ไม่มีหวงกันเลย เพราะเบียร์ต้องอร่อยที่สุด ไม่มีเจือจางผสมน้ำเปล่ามาให้จืดชืด

4.      เปรียบกันโดยทั่วไปแล้วคราฟต์เบียร์ “หมัด” หนักกว่า

คราฟต์เบียร์ส่วนมากจะมาพร้อมปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงกว่า “เบียร์ตลาด” ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็เริ่มตั้งแต่ 5% ไปถึง 10% ปลายๆ โน่นเลย (ดูรายการเบียร์ดีกรีแรงได้ที่นี่ https://www.wishbeer.com/th/937-strong-8) นั่นก็หมายความว่าคุณไม่ต้องดื่มคราฟต์เบียร์คราวละลังหรือซดเป็นทาวเวอร์เพื่อให้สนุกครื้นเครงแบบที่เคยทำมา

5.      เลือกดื่มคราฟต์เบียร์เพื่อแคลอรีที่ต่ำกว่า

หลายคนอาจจะงงกับข้อนี้ แต่อันที่จริงเรื่องราวมันง่ายๆ แบบนี้! จริงอยู่ว่าคราฟต์เบียร์ส่วนมากจะให้พลังงานสูงกว่าเบียร์ทั่วไปตามท้องตลาดอยู่บ้าง แต่เนื่องจากดีกรีที่หนักแน่นและรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ทำให้โดยปกติแล้ว ชาวคราฟต์เบียร์จะดื่มปริมาณน้อยกว่าคนที่ดื่มเบียร์ตลาดในการดื่มแต่ละคราว จะเห็นว่าหากในปาร์ตี้หนึ่งๆ คุณจิบคราฟต์เบียร์ที่ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรีไป 3 ขวด พร้อมสุนทรียภาพเต็มเปี่ยม คุณจะได้รับพลังงาน 600 กิโลแคลอรี ในขณะที่คุณอาจต้องดื่มเบียร์ตลาดที่ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรีทั้งหมด 6 ขวด เพื่อให้ไป “ถึง” ความสนุกสนานระดับเดียวกัน  ซึ่งนั่นคือพลังงาน 900 กิโลแคลอรีเลยนะ! แล้วแบบนั้นยังต้องลุกไปเข้าแถวรอใช้ห้องน้ำรอบแล้วรอบเล่าอีกต่างหาก

6.      หัวข้อสนทนาใหม่ๆ ที่ไม่น่าเบื่อ

การออกไปสังสรรค์ดื่มกินกับเพื่อนฝูง การพูดถึงเรื่องฟุตบอลนั้นก็สนุกดีแต่ก็จำเจเหลือเกิน เรื่องดาราก็ตามไม่ทัน เรื่องการเมืองก็ไม่อยากคุยมากมาย เรื่องงานก็อยากจะลืมๆ ไปก่อน เรื่องเบียร์ขาประจำในทาวเวอร์ก็ออกจะ “ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึง” เอาเสียเลย แบบนี้จะยังไงดี? ลองสั่งคราฟต์เบียร์มาดื่มกันสิ เพราะคราฟต์เบียร์นั้นต่างออกไป เราสามารถพูดคุยถึงเครื่องดื่มแสนวิเศษชนิดนี้ได้มากมาย ตั้งแต่เรื่องรสชาติ ที่มา ความชอบไม่ชอบต่างๆ ไปจนถึงฉลาก และเรื่องราวอื่นๆ อีกเพียบ! ไม่เชื่อคราวหน้าคุณลองไปที่ร้านเบียร์ดีๆ สั่งคราฟต์เบียร์ชนิดต่างๆ มาแบ่งกันชิมและลองเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับคราฟต์เบียร์ในมือดูสิ

ภาพจาก : fsrmagazine.com

7.      มีความสุขกับเบียร์ที่เหมาะกับแต่ละฤดูกาล

อย่างที่กล่าวไปแล้วคราฟต์เบียร์นั้นมีให้เราเลือกสรรมาดื่มตั้งมากมาย สิ่งหนึ่งที่คอคราฟต์เบียร์ทำกันเมื่อก้าวเข้ามาสู่ดินแดนมหัศจรรย์นี้แล้วก็คือการเลือกดื่มวนไปเรื่อยๆ นั่นเอง และเนื่องจากเบียร์แต่ละยี่ห้อแต่ละรสชาตินั้นจะแสดงศักยภาพแตกต่างกัน หากคุณมีความเข้าใจในเบียร์แต่ละแบบมากพอแล้วล่ะก็ คุณจะพบว่าความลงตัวจะบังเกิดขึ้นอย่างมากเมื่อดื่มในวาระที่แตกต่างกันของปีซึ่งมีอุณหภูมิ ความชื้น และบรรยากาศที่เปลี่ยนผันไป เช่น ในฤดูร้อน คอคราฟต์เบียร์อย่างเราก็นิยมมองหาพิลสเนอร์ หรือคริสตัลไวเซ่นรสดีมาจิบคลายร้อน เป็นต้น

8.      ดื่มด่ำรสชาติอย่างเต็มที่ควบคู่กับอาหารจานเด็ด

การ “แพริ่ง” หรือการจิบเบียร์รสเลิศกับอาหารที่คัดสรรมาอย่างเหมาะเจาะกำลังได้รับความนิยมกันอย่างมากเฉกเช่นเดียวกับเครื่องดื่มอย่างไวน์หรือบรั่นดี (ดูแนวทางการจับคู่เบียร์และอาหารเพิ่มเติมที่นี่ https://www.wishbeer.com/th/blog/what-beer-should-we-drink-tonight-part-2-n72) และที่กำลังเป็นที่สนอกสนใจกันอย่างมากในหมู่นักกินดื่มทั้งหลายก็คือการชิมเบียร์กับเนยแข็งชั้นเยี่ยมชนิดต่างๆ นั่นเอง แค่พูดถึงก็น้ำลายสอแล้วล่ะ!

ภาพจาก : beerandbrewing.com

9.      ร่วมสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้แข็งแกร่งยั่งยืน

อย่างที่เราทราบกันดีว่าคราฟต์เบียร์นั้น ถูกผลิตอย่างพิถีพิถันเอาใจใส่ และโดยมากผู้ผลิตก็จะเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่จากในท้องถิ่น แรงงานในพื้นที่ และทำมาค้าขายกับวงจรธุรกิจอื่นๆ ในละแวกนั้นเป็นหลัก ดังนั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะพบว่าการอุดหนุนคราฟต์เบียร์นั้นย่อมจะส่งผลให้เศรษฐกิจในชุมชนของผู้ผลิตมีความมั่นคงมากขึ้น ไม่ถูกกลืนไปโดยกลุ่มทุนข้ามชาติขนาดยักษ์อย่างที่เกิดขึ้นในหลายแห่งทั่วโลก เรียกว่าดื่มคราฟต์เบียร์แล้วได้เข้าถึงความเอร็ดอร่อยแถมสวยหล่อและมีคุณค่าต่อชุมชนกันไปตามๆ กัน!