4 วิธี ดื่มวิสกี้ให้มีมาด
มาดื่มวิสกี้ให้ “เป็น” กัน
ภาพจาก hespokestyle
นักดื่มบางคนอาจมองว่าการดื่มวิสกี้นั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย และอันที่จริงก็ออกจะเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ ไปเลยด้วยซ้ำ นั่นก็คงจะจริงอยู่บ้างหากว่าการดื่มของคุณหมายถึงการเทเครื่องดื่มที่คุณคิดว่า “ใช่” ลงบนน้ำแข็งผสมด้วยน้ำหรือโซดาแล้วยกซดฮวบๆ กันไปจนเมามาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการทำเช่นนั้นส่งผลให้คุณอาจพลาดโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้และซึมซับรสชาติที่แท้จริงของวิสกี้นั้นๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับเราแล้วการดื่มด่ำร่ำ “วิสกี้” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่คู่สังคมโลกมาอย่างยาวนานในฐานะเครื่องปลอบประโลมและสร้างสุนทรียภาพ ศิลปะเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และวันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการดึงเสน่ห์ของเจ้าวิสกี้ที่ถูกปรุงมาอย่างพิถีพิถันให้แสดงตัวอย่างเฉิดฉายสมคุณค่ามากที่สุดในแต่ละครั้งที่คุณยกขึ้นจิบ
ภาพจาก santacecilia
การดื่ม 4 แบบ
ความ cool นั้นแฝงอยู่ในทุกอณูของวิสกี้ ขนาดที่ว่ารูปแบบการดื่มหลักๆ ยังถูกจัดแบ่งเป็น 4 จำพวกด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นจตุรวิถีแห่งการดื่มอะไรทำนองนั้นแหละ J เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลามากไป เรามาเริ่มจากแบบแรกกันเลย
Neat
การดื่มเพียวหรือที่เราทับศัพท์ว่า Neat(ประณีต) นั้นไม่ได้สื่อความไปถึงการตบ Shot ทีละเป๊กวนไปแบบนั้น แต่หมายถึงการดื่มด่ำน้ำวิ้สกี้อย่างละเมียดละไมโดยปราศจากการปรุงแต่งเพิ่มเติม วิธีนี้มักจะเป็นการจิบครั้งแรกๆ ของการดื่มที่ตามมา เพราะเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดที่ผู้ดื่มจะได้ทำความรู้จักตัวตนของวิสกี้นั้นๆ ทั้งในเรื่องสี กลิ่น และรสสัมผัส เรามักจำแบบง่ายๆ ว่าขั้นตอนที่ดีสำหรับแนวทางการดื่มแบบนี้ก็คือ “ดู ดม ดื่ม” หรือบางคนอาจสาธยายให้ละเอียดว่า “ดู ดม อม กลืน” ในทำนองเดียวกับการชิมไวน์นั่นเอง
ภาพจาก askmen
การจิบแบบ Neat นั้นเริ่มจากการเทวิสกี้ของคุณลงในแก้ว (จะให้ดีควรเป็นแก้วทรงดอกทิวลิป หรือไม่ก็แก้วทรง Rocks ทั่วไป) กะปริมาณให้หนาราว 2 นิ้วก็กำลังดี เมื่อยกแก้วขึ้น เราควรพิจารณา “ดู” สีสันของน้ำซึ่งจะทำให้คุณพอประเมินได้ว่าวิสกี้ของคุณเป็นอย่างไร โดยมากวิสกี้ระดับสูงที่มีสีอำพันเข้มจะสะท้อนระยะเวลาการบ่มที่ยาวนานในถังไม้ ในขณะที่สีโทนออกม่วงจางๆ อาจสื่อถึงการเก็บบ่มในถังเหล้าพอร์ตหรือเชอรี่ก็เป็นได้ แต่ในกรณีเหล้าเบอร์เบินนั้นเราจะใช้การอนุมานเช่นนี้ไม่ได้เสมอไป เนื่องจากคนทำเหล้าชนิดนี้มักจะใช้ถังไม้ซ้ำหลายครั้ง ส่งผลให้สีสันไม่เข้มข้นตามเวลาการบ่มแล้ว โดยเฉพาะในการผลิตรอบหลังๆ
อย่างไรก็ตาม การดูสีนี้ไม่ได้จำเป็นมากนักสำหรับการดื่มวิสกี้ในระดับรอง ๆ โดยเฉพาะยี่ห้อตามร้านตลาดทั่วไปนั้น มักจะมีการแต่งสีด้วยคาราเมลเพื่อทำให้ลุคดูขลังและสวยงามชวนให้เคลิ้มอยู่แล้ว
ยกแก้วขึ้น และสูดกลิ่น “ดม” วิสกี้ของคุณ ในการดมวิสกี้นั้นคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้น้ำเหล้ามากแบบที่คุณดมกลิ่นเบียร์ เนื่องจากแอลกอฮอล์ในวิสกี้มีความรุนแรงกว่ามากและจะกลบคุณลักษณะอื่นๆ ไปหมด หรือไม่ก็ทำให้แสบจมูกไปเลย โดยมากกลิ่นของวิสกี้ก็มักจะวนอยู่ในกลุ่มกลิ่นหอมอุ่นอย่างคาราเมล วานิลลา เมเปิ้ล และควันไฟ แต่ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายที่เริ่มปรุงให้วิสกี้มีกลิ่นอายแบบดอกไม้และผลไม้บ้างเช่นกันเมื่อได้รู้จักวิสกี้ของคุณพอประมาณแล้ว จากนั้นก็บรรจง “ดื่ม” เข้าไปให้สดชื่นใจ
ถึงแม้วิธีนี้จะมีหลักคิดที่ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการชิมวิสกี้ชั้นเลิศ แต่ส่วนตัวเราไม่นิยมดื่มด้วยวิธีการนี้นะเราแนะนำให้เจือน้ำลงไปด้วยมากกว่า
สำหรับวิสกี้คุณภาพดีที่เหมาะจะดื่มเป็น Shot แล้วหละก็ต้องเจ้าพวกนี้เลย Dewar's, The Glenlivet, Glenfiddich
เติมน้ำ
การเติมน้ำนั้นเปรียบคล้ายกับการขัดรสชาติวิสกี้ให้เรียบละมุนต่อลิ้นอันบอบบาง อีกทั้งยังมีผล “เปิด” กลิ่นรสให้อวลออกมาสัมผัสประสาทรับรู้ของเราได้ดีขึ้นด้วย และปริมาณน้ำที่เติมเข้าไปในขณะที่จิบวิสกี้เพื่อชิมรสนั้น ไม่ใช่ครึ่งแก้วอย่างที่เรามักทำกันในงานสังสรรค์ แต่ควรอยู่ที่ 1 ฝาเท่านั้น หรือหากแอลกอฮอล์ยังคมบาดจนลิ้นชาอยู่อีก ก็ให้เพิ่มเติมไปคราวละ 1 ฝา (หรืออาจซอยให้ละเอียดกว่านั้น โดยใช้หลอดหยดทีละ 1 หยด) จนกว่าจะถึงจุดที่กลมกล่อมที่สุด
ภาพจาก pinterest
Single Malt Whisky เป็นเหล้าที่เหมาะกับการเติมน้ำไปด้วยที่สุด เพราะน้ำเปล่าจะช่วยลดความแรงที่บาดคอ และเพิ่มรสชาติให้ชัดเจนขึ้น
เติมน้ำแข็ง
การดื่มแบบใส่น้ำแข็ง หรือที่มักเรียกว่า On the Rocks นั้น ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักในหมู่เซียนวิสกี้ตัวจริง เนื่องจากน้ำแข็งโดยมากมักจะทำจากน้ำประปาซึ่งอาจมีคลอรีนมากจนทำให้เสียรสชาติ อีกทั้งการใส่น้ำแข็งมากมายเพื่อให้เครื่องดื่มเย็นจัดก็อาจกลายเป็นการเจือจางวิสกี้ลงไปจนไม่เหลือความงดงามไปเสียอีก โดยเฉพาะเมื่อน้ำแข็งพากันละลายไปหมดแล้ว
ภาพจาก technabob
คำแนะนำของเราก็คือ หากต้องการดื่มโดยใส่น้ำแข็งจริงๆ ควรใช้น้ำแข็งก้อนใหญ่ซึ่งทำขึ้นจากน้ำที่ดีเพียง 1 ก้อนเท่านั้นก็พอ ปัจจุบันยังมีน้ำแข็งให้เลือกใช้หลายแบบ ทั้งแบบเหลี่ยม กลม ละลายช้า ไปจนถึงอุปกรณ์ที่เรียกว่า Whisky Stones ซึ่งให้ความเย็นจัดกับน้ำได้โดยไม่ละลายเหมือนน้ำแข็งด้วย
อ้อ เราไม่แนะนำให้ดื่มวิสกี้แบบ Single-malt กับน้ำแข็งนะ J แบบว่าเสียดายรสชาติไง แต่ถ้าหากอยากจะลองดื่มแบบ on the rock ดูหละก็ต้องเจ้าพวกนี้เลย Bourbon American Whisky
ผสมเป็นค็อกเทล
กรณีที่คุณไม่ได้ชื่นชอบรสชาติแบบวิสกี้เท่าไหร่นัก หรือไม่ก็อาจจะเบื่อและสนใจลิ้มลองประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วล่ะก็ ลองจัดแบบเป็นเครื่องดื่มผสมดูสิ สมัยนี้มีสูตรการผสมค็อกเทลจากวิสกี้อยู่มากมายในอินเทอร์เน็ตให้คุณได้ทดลอง ไม่ว่าจะเป็นตำรับคลาสสิก แนวร่วมสมัยหรือล้ำยุค แต่หากว่าคุณลองแล้วค้นพบว่าเอาดีทางด้านนี้คงไม่ไหวจริงๆ เราคิดว่าก็คงพอจะปรึกษาปัญหานี้กับบาร์เทนเดอร์ได้ที่บาร์ใกล้บ้านคุณทุกค่ำเลยล่ะ
ภาพจาก bellinibar
ข้อคิดจากเราสำหรับคนที่อยากลองค็อกเทลวิสกี้เด็ดๆ ก็คือ ไม่จำเป็นต้องเจาะจงใช้วิสกี้ราคาสูงเพื่อค็อกเทลที่อร่อย วิสกี้ระดับกลาง ๆ ก็กำลังดีทีเดียว หากยังไม่เข้าใจเหตุผลในข้อนี้ ก็เอาเป็นว่าคุณคงไม่อยากบีบมะนาวใส่วิสกี้ขวดละ 2-30,000 บาทใช่ไหมล่ะ โอย... ขนลุก
สำหรับใครที่อยากจะลองทำค็อกเทลด้วยตัวเอง เราขอแนะนำเซ็ทเหล่านี้ให้คุณได้ไปทำกันเองอย่างง่ายๆ Cocktail set
ภาพจาก modernluxury
นี่แหละ การดื่มวิสกี้ทั้ง 4 แบบหลัก ๆ ที่นักดื่มทั่วโลกทำกัน แต่เช่นเดียวกับเรื่องเบียร์ เราบอกไว้ตรงนี้เลยว่าหากคุณรักที่จะดื่มแบบเดิม ๆ เหล้า โซดา น้ำ หรืออัดน้ำแข็งเต็มแก้วอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ทำเถิด มันไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าสิ่งเหล่านั้นผิดหรือถูกแต่ประการใด เพราะว่าข้อสำคัญของการดื่มก็คือความรื่นรมย์ของผู้ดื่มนั่นเอง แนวทางที่เราแนะนำในวันนี้เป็นเพียงวิธีการที่จะดื่มด่ำวิสกี้ให้ได้รสชาติใกล้เคียงอย่างที่ควรจะเป็นมากที่สุดเท่านั้น (แถมได้มาดที่ดูหล่อแบบนุ่มลึกไปอีกนิดหน่อยด้วยอิอิ)
No author
เอาอร่อยลิ้น เมาปลิ้น สบายอารมณ์
No author
เอาอร่อยลิ้น เมาปลิ้น สบายอารมณ์
No author
เอาอร่อยลิ้น เมาปลิ้น สบายอารมณ์