ภาพจาก Homehops

 

จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีไม่น้อยทุกวันนี้ในประเทศไทยมีเบียร์มากมายให้ลิ้มลองสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป แต่บ่อยครั้งสำหรับบางคนแล้วจำนวนฉลากที่มากมายขึ้นทุกทีก็สร้างความสับสนได้มากจนถึงกับไม่กล้าแม้แต่จะลองเริ่มชิมเอาเลย ถ้าปัญหาของคุณเป็นไปในลักษณะที่ว่ามา วันนี้เราจะมาเสนอทางออกแบบหนึ่งที่พอจะช่วยบรรเทาความหนักใจได้พอสมควร ทางออกที่ว่าก็คือให้พุ่งตรงไปหาเบียร์ติดเรทตัวพ่อตัวแม่เสียเลยไงล่ะ

เช่นเดียวกันกับแทบทุกอย่างในสังคมโลก เบียร์เองก็มีการจัดอันดับจากสถาบันต่างๆ ในหลายระดับด้วยกันซึ่งหนึ่งในแหล่งของการลงคะแนนและจัดอันดับที่ถือได้ว่าทั้งเข้มข้นและเปิดกว้างที่สุดสำหรับคอเบียร์ทั่วโลกนั้นเป็นเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Ratebeer.com

 

ภาพจาก Ratebeer

เว็บไซต์เรทเบียร์เป็นพื้นที่ออนไลน์ที่ก่อตั้งโดยนาย Bill Buchanan ในปี ค.ศ. 2000 ก่อนที่จะมีทีมงานเข้ามาสมทบมากขึ้นและในที่สุดได้กลายเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่สำหรับให้ผู้คนมาแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับสารพันเบียร์ทั่วโลก โดยปัจจุบันมีการลงคะแนนถึง 4.5 ล้านชุด ให้กับเบียร์จำนวนกว่า 200,000 ฉลาก จากโรงเบียร์กว่า 16,000 แห่งแล้ว

 

ในที่นี้คงเป็นไปได้ยากยิ่งที่จะนำเอาเบียร์ทุกฉลากมานำเสนอ เนื่องจากสาเหตุสำคัญเลยก็คือประเทศไทยยังไม่ได้มีเบียร์ทุกยี่ห้อที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์เรทเบียร์นี้ และถึงจะมีครบก็คงจะต้องร่ายยาวกันเป็นเล่มๆ จนจำไม่ไหว เราจึงคัดเลือกอย่างค่อนข้างตามอำเภอใจตามความชื่นชอบ(ดังนั้นเราจึงใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไปบ้างในคำบรรยาย) อย่างไรก็ตาม เราก็ยังมุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อนักดื่มโดยให้ความสนใจไปยังยี่ห้อที่มีวางขายในร้านค้าชั้นนำในบ้านเรา(และยังคงมีพร้อมจำหน่ายในขณะที่เขียนนี้) เช่น ร้าน Wishbeer ซึ่งจัดว่ามีเบียร์ให้เลือกสรรอย่างมากมายที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศทั้งนี้ เราจะไม่นำเสนอในลักษณะของการจัดอันดับ แต่เราจะกล่าวถึงเบียร์ที่ได้รับคะแนนสูงลิ่ว คือ ตั้งแต่ 95 ขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 100และจากโรงเบียร์ละ 1-2 ฉลากเท่านั้น เพื่อความหลากหลายที่คุณอาจจะได้ลิ้มลอง ซึ่งจะไล่เรียงไปตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษของชื่อผู้ผลิต เอาล่ะ! มาดูกันเลย

 

1. Anderson Valley Hop Ottin’ IPA | Anderson Valley Brewing Company | 7% ABV | IPA

 

overall
95

94
style

 

 

เบียร์ไอพีเอสไตล์อเมริกันฝั่งตะวันตกสีอำพันเข้ม ส่งกลิ่นจัดจ้านอัดแน่นไปด้วยดอกฮอปส์สายพันธุ์ Cascade และ Columbus ซึ่งส่งกลิ่นหอมคล้ายผลไม้รสเปรี้ยวคล้ายเกรปฟรุ้ตและใบสน เจือด้วยกลิ่นสมุนไพรอื่นๆ ในตอนท้าย รสกลมกล่อมด้วยมอลต์ที่หนักแน่น

 

2. Bear Republic Racer 5 | Bear Republic Brewing Company | 7.5% ABV | IPA

 

overall
99

99
style

                                                                                                   

เบียร์ไอพีเอจอมล่าเหรียญรางวัล เนื้อเบียร์แน่นหนักด้วยมอลต์และขมสะใจ ควบคู่ไปกับความหอมฉุนแฝงความเผ็ดร้อน อีกหนึ่งเบียร์ตัวอย่างที่คอเบียร์ไอพีเอควรลอง

 

3. Brewdog Jack Hammer | Brewdog | 7.2% ABV | IPA

 

overall
98

98
style

 

เบียร์ไอพีเอจากค่ายเบียร์ที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วโลกจากเบียร์สไตล์นี้ ขมจัดชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัยด้วยระดับเกิน 200 IBU (มาตราสำหรับวัดความขม) แต่หอมอย่างดุดันด้วยดอกฮอปส์ที่ให้กลิ่นคล้ายเกรปฟรุ้ต ดูรวมๆ แล้วเรียกได้ว่ามีเสน่ห์เหมาะกับคอคราฟต์เบียร์ในยุคนี้อย่างมาก

 

4. Brewdog Paradox Compass | Brewdog | 15% ABV | Imperial Stout

 

overall
100

95
style

 

เบียร์สไตล์อิมพีเรียลสเตาท์แบบอเมริกันที่ต่อยอดมาจากฉลากชื่อ Paradox โดยการนำไปบ่มต่อในถังไม้ของเหล้า Great King Street ผลงานของผู้ผลิตสก็อตช์วิสกี้อิสระชื่อว่า Compass Box เป็นระยะเวลา 221 วัน จนได้เบียร์ที่มีกลิ่นหอมอบอุ่นของมอลต์คั่วเข้มชัดเจน นุ่มนวลด้วยกลิ่นช็อกโกแลตและผลไม้สีเข้ม และแน่นอนว่าย่อมฉาบไปด้วยกลิ่นอายร้อนแรงของวิสกี้ แต่น่าประทับใจว่าแอลกฮอล์ที่สูงขนาดนี้ไม่แถมความบาดคอมาให้รำคาญใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

5. Chimay Blue Cap | Chimay | 9% ABV | Belgian Strong Dark Ale

 

overall
100

100
style

 

 

เบียร์รุ่นเก๋ารสชาติซับซ้อน ส่งกลิ่นยีสต์ที่หอมนวลแฝงกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ รสแน่นปากคอด้วยมอลต์คั่วและแทบไร้ความขม นี่คือหนึ่งในเบียร์แบบทราปปิสต์หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า “เบียร์พระ” (บาทหลวง) ชั้นเยี่ยม

 

6. Deschutes Obsidian Stout | Deschutes Brewery | 6.4% ABV | Stout

 

overall
98

99
style

 

 

เบียร์ดำรสเข้มข้น อบอวลด้วยกลิ่นหอมอย่างกาแฟเอสเพรสโซ ช็อกโกแลตดำและมอลต์คั่วเข้ม ตัดความหวานอย่างคมคายด้วยฮอปส์จำนวนไม่น้อย ทำให้ได้สเตาท์ที่ดุดันเคร่งขรึมที่เหมาะแก่การจิบอย่างละเลียดละไม

 

7. Founders Curmudgeon Old Ale | Founders Brewing Company | 9.8% ABV | Old Ale

 

overall
98

96
style

 

 

  เบียร์ตำรับเก่าแก่ดั้งเดิมที่แพร่หลายตามเมืองท่ายุคก่อน ใช้กากน้ำตาล (โมลาส) เป็นวัตถุดิบหลักร่วมกับมอลต์จำนวนมาก จากนั้นบ่มในถังไม้โอ๊กต่อไปอีกจนได้เบียร์เนื้อแน่นที่มีลักษณะโบราณชัดเจน ฟองน้อย ติดหวานแต่แฝงกลิ่นหอมเผ็ดร้อนอย่างเครื่องเทศ กล่าวคือมีรสชาติโดยรวมที่ซับซ้อนคล้ายกับเหล้าจำพวกเบอร์เบิน อาจพบเศษตะกอนเล็กน้อยเนื่องจากเบียร์ชนิดนี้ไม่ผ่านการกรอง 

 

8. Founders KBS | Founders Brewing Company | 12.4% ABV | Imperial Stout

 

overall
100

100
style

 

คำว่า KBS ที่เป็นชื่อของเบียร์ฉลากนี้ย่อมาจาก Kentucky Breakfast Stout เป็นเบียร์อิมพีเรียลสเตาท์ที่ถูกนำไปบ่มในถังไม้โอ๊กของเหล้าเบอร์เบินและเก็บรักษาไว้ในถ้ำตลอดทั้งปี น้ำเบียร์สีดำสนิท แน่นหนืดและมีกลิ่นเผ็ดร้อนแต่รสเจือหวานคล้ายน้ำผึ้ง กล้วยอบ ช็อกโกแลต โอ๊ตมีลและกาแฟ เมื่อทิ้งไว้จนอุ่นขึ้นเล็กน้อย ทั้งหมดที่ว่ามานี้จะยิ่งชัดเจนขึ้นอีกด้วย บอกเลยว่าเขาไม่ได้มาเล่นๆ นี่คือเบียร์ระดับโลกอีกฉลากหนึ่งจากFounders

 

9. Fuller’s London Porter | Fuller’s Brewery |5.4% ABV | English Porter

 

overall
99

100
style

 

เบียร์พอร์เตอร์คลาสสิกแบบอังกฤษที่เรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับให้กับเบียร์ตำรับประวัติศาสตร์นี้อย่างแท้จริง เนื้อเบียร์นุ่มนวล หวานบางๆ คล้ายขนมปังอบกรอบ มอลต์คั่วเข้มให้กลิ่นหอมอย่างช็อกโกแลตและกาแฟ เป็นเบียร์พอร์เตอร์ที่ไม่หวือหวานักเมื่อเทียบกับเบียร์ร่วมสมัยอื่นๆ แต่มีดุลยภาพสูงมากในเชิงกลิ่นและรส จึงมีความกลมกล่อมและเข้าถึงไม่ยากนัก

 

1. Hitachino Nest Espresso Stout | Kiuchi Brewey | 7.5% ABV | Imperial Stout

 

overall
99

99
style

 

เบียร์สเตาท์กาแฟจากผู้ผลิตคราฟต์เบียร์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจากอิมพีเรียลสเตาท์สูตรดั้งเดิมที่เป็นที่ชื่นชอบในราชสำนักรัสเซีย สีดำสนิท อัดแน่นไปด้วยกลิ่นคั่วเข้มจากเมล็ดกาแฟแท้เจือด้วยกลิ่นหอมคล้ายช็อกโกแลต โกโก้ และผลไม้สีเข้ม (เช่น ลูกไหน บลูเบอร์รี่และแบล็คเคอร์แรนท์ เป็นต้น) มีความนัวแบบอูมามิขมปลายเล็กน้อย เหมาะสำหรับคอเบียร์ที่เป็นคอกาแฟตัวยงแน่นอน

 

1. Mikkeller Beer Geek Breakfast | Mikkeller (Lervig) | 7.5% ABV | Oatmeal Stout

 

overall
100

100
style

 

เบียร์โอ๊ตมีลสเตาท์จากเบียร์ยี่ห้อดัง โดดเด่นด้วยความหนักแน่นเนื่องจากการใช้ข้าวโอ๊ตเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก น้ำเบียร์สีดำสนิท กลิ่นหอมกาแฟคั่วเข้ม ดาร์คช็อกโกแลตและกลิ่นควันจากการคั่วธัญพืช นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงรสอูมามิที่สร้างความสมดุลได้เป็นอย่างดี

 

2. Mikkeller Beer Geek Brunch Weasel | Mikkeller (Lervig) | 10.9% ABV | Imperial Oatmeal Stout

 

overall
100

100
style

 

 

เบียร์อิมพีเรียลโอ๊ตมีลสเตาท์พันธุ์ดุที่ใช้กาแฟซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อนอีกทั้งยังถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดากาแฟที่มีราคาสูงที่สุดในโลกอย่างกาแฟขี้ชะมดมาเป็นส่วนผสมสำคัญ นี่คือเบียร์ที่ทำให้ผู้ผลิตรายนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในเวทีคราฟต์เบียร์โลกเลยทีเดียว น้ำเบียร์สีดำ เนื้อค่อนข้างแน่นและเนียน ฟองน้อย มีกลิ่นหอมกาแฟเข้มข้นชัดเจนและยาวนาน แทรกด้วยกลิ่นคล้ายช็อกโกแลต ชะเอมเทศและวานิลลา ติดหวานบางๆ ตัดด้วยความขมกำลังดี นับว่าเป็นอิมพีเรียลโอ๊ตมีลสเตาท์ระดับพระกาฬ

 

3. Rochefort Trappistes 10 | Rochefort | 11.3% ABV | Abt (Quadrupel)

 

overall
100

100
style

 

 

เบียร์ทราปปิสต์ชนิดแรงขนานแท้ ผลงานชูโรงของผู้ผลิตเก่าแก่ที่สืบทอดการทำเบียร์มาหลายร้อยปี รสแน่นเต็มปากเต็มคำอย่างมาก มีกลิ่นหอมที่ซับซ้อนของมอลต์และผลไม้แห้งสีเข้มต่างๆ โดยเฉพาะลูกเกดและลูกพรุน เจือด้วยความหอมหวานคล้ายน้ำผึ้งและคาราเมล เป็นเบียร์ที่นุ่มนวลเป็นอย่างยิ่งทั้งที่มีแอลกอฮอล์สูงไม่ใช่เล่น

 

4. Rogue Hazelnut Brown Nectar | Rogue Ales & Spirits | 5.6% ABV | Brown Ale

 

overall
97

100
style

 

 

เบียร์แบบบราวน์เอลที่โดดเด่นด้วยความหอมมันแบบถั่วและมอลต์คั่ว มีกลิ่นหอมหวานคล้ายคาราเมลผสมกับช็อกโกแลตตัดท้ายด้วยเครื่องเทศบางๆ หนักแน่นกำลังดีและนุ่มมาก

 

5. Stone Imperial Russian Stout | Stone Brewing | 10.8% ABV | Imperial Stout

 

overall
100

99
style

 

 

เบียร์อิมพีเรียลสเตาท์ฉลากพิเศษที่ผลิตขึ้นเฉพาะฤดูกาล น้ำเบียร์แน่นหนืดเหมาะสำหรับจิบที่อุณหภูมิห้อง (แน่นอนว่าสำหรับประเทศไทยก็ควรเป็นห้องปรับอากาศ) หรือเย็นกว่านั้นเล็กน้อย กลิ่นหอมหนักหน่วงของมอลต์คั่วเข้ม กาแฟ ช็อกโกแลต ลูกเกด และแบล็คเคอแรนท์แห้ง จะยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของเบียร์ค่อยๆ สูงขึ้นขณะดื่มด่ำไปเรื่อยๆ น้ำเบียร์นุ่มแต่สัมผัสกลิ่นอายแอลกอฮอล์ที่มากมายได้ค่อนข้างชัด

 

6. Tuatara APA |Tuatara Brewing Company | 5.8% ABV | American Pale Ale

 

overall
95

98
style

 

 

เบียร์เพลเอลแบบอเมริกันที่ใช้ดอกฮอปส์สายพันธุ์ที่หอมคล้ายผลไม้รสเปรี้ยวและใบสน เจือด้วยกลิ่นดินและกลิ่นเผ็ดร้อนบางๆ คล้ายขิง น้ำเบียร์มีสีอำพัน เนื้อแน่นปานกลางและมีสมดุลด้วยมอลต์ที่หนักแน่นรับกันพอดี

 

7. Weihenstephaner Korbinian | Weihenstephan | 7.4% ABV | Doppelbock (Double Bock)

 

overall
98

99
style

 

 

เบียร์ดับเบิลบ็อคสีน้ำตาลเข้ม เนื้อเบียร์แน่นปานกลางถึงมาก หอมกลิ่นมอลต์ ขนมปังและคาราเมลตามด้วยกลิ่นคล้ายผลไม้สีเข้มต่างๆ มีความซับซ้อนอย่างน่าพอใจและดื่มไม่ยากจนเกินไป

 

8. Weihenstephaner Hefe Weissbier | Weihenstephan | 5.4% ABV | German Hefeweizen

 

overall
99

100
style

 

 

เบียร์เฮเฟอไวเซ่นชื่อดังระดับโลก น้ำเบียร์สีเหลืองขุ่น หอมชื่นใจด้วยกลิ่นนวลแบบขนมปัง ธัญพืช (โดยเฉพาะข้าวสาลี) ผสานกับกลิ่นคล้ายกล้วยและเครื่องเทศบางๆ ซ่ากำลังดีและเปรี้ยวฉ่ำเล็กน้อย ติดหวาน เป็นเบียร์ที่ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นได้ดีมากเลยทีเดียว

 

อย่างที่เราได้กล่าวไว้ในข้างต้น เบียร์ทั้ง 18 รายการที่ยกมาเล่าสู่กันฟังนี้ มีวางขายในประเทศไทยและหากคุณไม่มีเวลาจะไปมองหาที่อื่นไกล ลองกดเข้าไปดูที่ Wishbeer.com ได้เลย! เขามีพร้อมสรรพทุกขวดเลยล่ะ จัดไปยาวๆ ได้เลย J