10 อันดับเบียร์ที่ “ขม” ที่สุดในโลก
หากเราลองถามนักดื่มทั่วโลกว่าสไตล์เบียร์อะไรบ้างที่ชื่นชอบ เราเชื่อว่า IPA คงเป็นหนึ่งในสไตล์เบียร์อันดับต้นๆ ที่ถูกพูดถึงแน่นอน เพราะด้วยกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ อันเกิดจากการใส่ “ฮอปส์” เจ้าดอกไม้เล็กๆ สีเขียว ที่แสนจะทรงอานุภาพจนเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์เบียร์ในช่วง 50 ปีหลังอย่างชัดเจน ซึ่งหากใครได้ลิ้มลองรสชาติของเจ้าดอกไม้นี้แล้วเชื่อว่าคงยากที่จะถอนใจ
แต่ก็เหมือนกันหลายๆ อย่างในชีวิตที่เมื่อเราชื่นชอบหลงใหลเข้าให้แล้ว ก็จะยิ่งอยากจะเพิ่มปริมาณมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะความคุ้นเคยในรสขมๆ อันทรงเสน่ห์ แต่อีกส่วนก็คงเพื่อสนองความสะใจ เพราะเมื่อยิ่งดื่มเบียร์มากขึ้นเท่าไหร่ภูมิคุ้มกันร่างกายก็จะถูกปรับให้ทนทานต่อรสขมมากยิ่ง นั้นทำให้มีผู้ผลิตบางเจ้าเริ่มทะลายกำแพงเดิมๆ แล้วทดลองผลิตเบียร์ที่มีความขมที่มากจนยากหยั่งถึง จนแม้แต่เราเองก็ไม่เชื่อว่าจะมีเบียร์อะไรขมได้ขนาดนี้
วันนี้ Wishbros ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ 10 อันดับเบียร์ที่มีรสขมมากที่สุดในโลก แต่ก่อนอื่นเราขอทำความเข้าใจเรื่องของ “รสขม” ในเบียร์ก่อนว่าเกิดจากอะไรและมีหน่วยมาตรฐานที่ใช้วัดกันอย่างไร โดยเริ่มจากรสขมในเบียร์นั้นเกิดจากการใส่ดอกฮอปส์ลงไปในขั้นตอนการผลิตเบียร์ โดยในอดีตนั้นทำเพื่อสร้างสมดุลเรื่องรสชาติระหว่างรสหวานกับรสขม เพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น และก็มีส่วนช่วยในการยืดอายุของเบียร์ให้นานยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันฮอปส์ถูกใส่ลงในเบียร์เพื่อรสขม และการแต่งกลิ่น เป็นส่วนใหญ่ โดยค่าความขมของเบียร์จะมีหน่วยมาตรฐานที่เรียกว่า IBU (International Bitterness Unit) ซึ่งโดยปกติจะมีค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0-150 IBU ยกตัวอย่างเช่น เบียร์ไทยอย่างเบียร์สิงห์จะมีค่า IBU อยู่ที่ 20 ส่วนเบียร์ IPA ชื่อก้องโลกอย่าง Brewdog Punk IPA มีค่า IBU อยู่ที่ 50 แต่ความขมระดับนี้หากเปรียบเทียบกับ 10 เบียร์ที่อยู่ในลิสต์ของเราวันนี้แล้ว จะถือว่าเป็นเบียร์จืดไปเลยก็ว่าได้
อันดับ 10 Brokreacja: My Name is IBU (ABV 8.1%)
เริ่มตัวแรกด้วยเบียร์จากประเทศโปแลนด์ ที่มีค่าความขมอยู่ที่ 1,000 IBU หรือขมกว่าสิงห์ถึง 50 เท่า ตัวเบียร์เป็นสไตล์ Imperial IPA ที่ใช้ฮอปส์ 4 สายพันธุ์ Tomahawk, Magnum, Citra, Simcoe แค่ได้ยินชื่อฮอปส์ก็รู้เลยว่าต้องหอมมาก แต่เรื่องรสชาติเราไม่ขอออกความเห็นครับ
อันดับ 9 Hart & Thistle : Hop Mess Monster v2.0 (ABV 9.2%)
เบียร์จากบรูว์ผับเล็กๆในเมือง Halifex ประเทศ Canada ที่ผลิตเบียร์เพื่อหล่อเลี้ยงชาวเมือง แต่วันหนึ่งเจ้าของเกิดคิดอยากลองทำเบียร์ที่มีรสขมบาดลิ้นจึงได้คิดสูตรเบียร์ที่มีฮอปส์ถึง 8 ชนิดได้แก่ Munich Hops, Magnum, Chinook, Cascade, Sorachi Ace, Simcoe, Citra, Columbus และมีค่า IBU ถึง 1,066 เรียกว่าขมขึ้นตากันเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่บรูว์ผับนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว
อันดับ 8 Daft Badger Brewing : Double IPA (ABV 8.5)
เบียร์จากโรงเบียร์เล็กๆในเมือง Coeur d’ Alene, Idaho ประเทศอเมริกา ซึ่งน่าจะเป็นเมืองที่เล็กมากจนเราหาข้อมูลของเบียร์ตัวนี้แทบจะไม่เจอ สิ่งเดียวที่เราหาได้คือเบียร์ตัวนี้มีค่าความขมอยู่ถึง 1,100 IBU เอาเป็นว่าใครผ่านไปแถวนั้นแวะลองเจ้า Daft Badger Brewing : Double IPA หน่อยก็ดีนะครับ
อันดับ 7 Zaftig Brewing Shadowed Mistress (ABV 8.5%)
ยังคงอยู่กับเบียร์จากประเภทอเมริกา ที่เมือง Ohio (ประเทศนี้เค้าบ้าฮอปส์จริงๆ) แต่ตัวนี้ไม่ใช่สไตล์ IPA แล้ว แต่เป็น American Strong Ale ที่มีความขม 1,100 IBU โดยสูตรเบียร์ถูกปิดเป็นความลับ แต่ก็มีคนเดากันไปต่างๆนานาว่าใช้ดอกฮอปส์ที่แตกต่างกันกว่า 10 ชนิด แต่เอาจริงๆ ใครจะไปรู้
อันดับ 6 Triggerfish Brewing : The Kraken (ABV 11,5%)
บินข้ามทวีปไปที่ Somerset West, South Africa ที่โรงเบียร์เล็กๆ ชื่อ Triggerfish Brewing ที่ผลิตเจ้าปีศาจ “The Kraken” ออกมาที่ 1,254 IBU ด้วยส่วนผสมของฮอปส์เพียง 2 ชนิดคือ Summit และ Southern Passion แต่หากใครอยากไปลองคงต้องมีความพยายามหน่อยนะครับ แต่ก็น่าจะคุ้มค่าเพราะโรงเบียร์นี้อยู่ติดริมทะเลรับรองว่าวิวคงสวยมากแน่นอน
อันดับ 5 L’Espace Public : Extrême 2000 (ABV 6.7%)
ผ่านมาครึ่งทางของ 10 อันดับสุดยอดเบียร์ขมที่สุดในโลก โดยในอันดับ 5 เป็นเบียร์สไตล์ Imperial IPA ที่มีระดับแอลกอฮอล์เพียง 6.7% ที่ผลิตที่โรงเบียร์ L’Espace Public กับเบียร์ที่มีชื่อว่า Extrême 2000 โดยที่มาของชื่อคงไม่ต้องสงสัยว่ามาจากค่าความขมที่ระดับ 2,000 IBU (หรือขมกว่าสิงห์บ้านเราถึง 100 เท่า) เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะขมขนาดไหน
อันดับ 4 Mikkeller : X Hop Juice 2007 IBU (ABV 5%)
แฟนๆ เบียร์บ้านเราคงคุ้นชื่อ Mikkeller เป็นอย่างดีเพราะเป็นคราฟต์เบียร์ที่เข้ามาวาดลาดลายในบ้านเราเป็นเจ้าแรกๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้า X Hop Juice 2007 IBU ไม่ได้เข้ามาด้วย โดยเบียร์ตัวนี้มาด้วยสไตล์ American Pale Ale ที่แอลกอฮอล์เพียง 5% เท่านั้น (มีคนเคยบอกว่ายิ่งแอลกอฮอล์น้อยความขมยิ่งชัด) โดยตัวนี้มาด้วยความขม 2,007 IBU ตามชื่อเลยหละครับ
อันดับ 3 Arbor : FF #13 - 2012 Double Black IPA (ABV 7%)
Arbor : FF #13 - 2012 Double Black IPA เบียร์จากประเทศอังกฤษเข้ามาสู่เกมในอันดับที่ 3 ด้วยระดับความขม 2,012 IBU โดยใช้ฮอปส์เป็นส่วนผสม 4 ชนิดคือ Bravo, Zeus, Galena และ Summit โดยเบียร์ตัวนี้เป็นสไตล์ Black IPA คิดดูสิครับว่านอกจากขมฮอปส์แล้วยังขมคั่วอีกด้วย ตอนจิบหน้าตาจะเป็นยังไงนะ
อันดับ 2 Flying Monkeys Craft Brewery : Alpha Fornication (ABV 13.3%)
เบียร์จากแคนาดาอีกตัวที่เค้ามาอยู่ใน 10 อันดับของเรา และน่าจะเป็นเบียร์สุดขมที่แอลกอฮอล์เยอะที่สุดในนี้ด้วย โดยความขมอยู่ 2,500 IBU โดยการใช้ฮอปส์เพียงแค่ 2 ชนิดคือ Warrior และ Centennial แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะโรงเบียร์นี้มีสโลแกนสุดแท้ว่า “Normal is Weird”
อันดับ 1 Carbon Smith : F*cks Up Your Sh*t (ABV 9.8%)
F*cks Up Your Sh*t สุดยอดเบียร์ขมที่คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสมศักดิ์มีค่าความขมถึง 2,600 IBU (ขมกว่าสิงห์ถึง 130 เท่า) คือเบียร์จากเมือง Edinburgh ประเทศสก็อตแลนด์ โดยหากเพื่อนๆคนไหนอยากลองชิมเบียร์รสขมสุดโหดนี้ คงต้องลงทุนบินไปที่โรงเบียร์เพราะเจ้า F*cks Up Your Sh*t มีให้ดื่มเฉพาะแบบสดที่โรงเบียร์เท่านั้น
ใครอยากลองเปิดประสบการณ์สุดโหดให้กับลิ้นตัวเองเชิญตามลายแทงของเราได้เลยนะครับ เบียร์ IPA
tadalafil daily use
tadalafil 40 https://elitadalafill.com/ tadalafil daily use
cost of sildenafil 100 mg tablet
sildenafil 20 mg pills https://eunicesildenafilcitrate.com/ cheapest sildenafil online
vardenafil vs tadalafil
why vardenafil dosage over 65 https://vegavardenafil.com/ buy vardenafil
alprostadil or yohimbine
alprostadil cost per dose https://alprostadildrugs.com/ alprostadil covered by blue cross
generic tadalafil
buy tadalafil us https://elitadalafill.com/ tadalafil pills