“เบียร์วุ้น” ตราบาปอันแสนชื่นใจของนักดื่ม
เมื่อพูดถึงเบียร์เย็นเฉียบสักแก้วในช่วงบ่ายอันแสนอบอ้าวของประเทศไทย หลายคนคงนึกถึงภาพเบียร์ลาเกอร์เจ้าใหญ่ใส่น้ำแข็งล้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวไทยทำกันมานานจนกลายเป็นความปกติธรรมดาไปแล้ว (พึงทราบว่าคอเบียร์ในมุมอื่นของโลกเขาไม่ทำกันแบบนั้น) แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่เย็นยะเยือกยิ่งไปกว่านั้นอีก นั่นคือ “เบียร์วุ้น”
วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องเบียร์วุ้นกันเพราะเราสังเกตว่าพักหลังมานี้การดื่มเบียร์ที่เย็นจัดจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งกำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คอเบียร์อเมริกัน จะว่าน่าแปลกใจก็ใช่ เพราะคนรักเบียร์จำนวนไม่น้อยต่างพากันดูถูกดูแคลนวิธีการดื่มเบียร์แบบนี้ว่าเป็นความผิดบาปต่อการดื่มเบียร์ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าความเย็นนั้นจะกลบกลิ่นหอมๆ ของน้ำเบียร์ไปเสียหมด และสำหรับพวกเขาเหล่านั้นเบียร์วุ้นสุดเย็นก็คงไม่ต่างอะไรกับเครื่องดื่มสเลอร์ปี้แบบผู้ใหญ่ที่รสแปลกๆ แต่ในอีกมุมหนึ่ง จะว่าไม่เกินคาดก็ได้ เพราะว่าในโลกแห่งการผจญภัยอันแสนสนุกอย่างโลกของเบียร์นั้น เราก็เห็นมาหมดแล้วทั้งเบียร์ผสม เบียร์ที่ปรุงเป็นอาหาร เบียร์ที่อยู่ในรูปแบบไอศกรีม และแน่นอนว่าเบียร์ใส่น้ำแข็งล้นๆ! แล้วมันจะเป็นอะไรไปเสียล่ะ อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ก็ชวนให้ลองเสี่ยงเล่นดูอยู่เหมือนกัน และสำหรับชาวประชาที่มักจะทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อย เราคงห้ามไม่ได้ แต่ส่วนตัวเราก็เห็นว่าวิธีนี้ยังดีเสียกว่านำเบียร์ไปใส่น้ำแข็งเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครอยากจะอุตริไปทดลองกับบรรดาคราฟต์เบียร์ทั้งหลายโดยไม่จำเป็น และบางทีอาจไม่ควรทำ (แต่เราไม่เถียงว่าผลลัพธ์อาจจะออกมาถูกปากถูกใจก็ได้นะ)
เบียร์วุ้น หรือที่เดี๋ยวนี้ชาวโลกเรียกทับศัพท์ว่า Bia-Wun นั้น ได้รับการยอมรับจากชาวโลกว่ามีต้นตำรับอยู่ในประเทศไทยมาหลายสิบปีแล้ว อย่างที่เห็นได้ว่ามีร้านอาหารหลายแห่งให้บริการทำเบียร์วุ้นกันเป็นล่ำเป็นสันชนิดที่ว่าเกิดมาเพื่อเบียร์วุ้นและเบียร์วุ้นเท่านั้น และเราเชื่อเหลือเกินว่าไม่ว่าปัจจุบันคุณจะเป็นคอเบียร์สไตล์ใดก็ตาม หากคุณเริ่มต้นเข้าสู่โลกของเบียร์ในแดนสยามแห่งนี้แล้ว ย่อมต้องต้องเคยลองลิ้มความรู้สึกที่พิเศษแตกต่างของเจ้าเบียร์วุ้นนี้อย่างแน่นอน ชอบหรือไม่ค่อยว่ากันอีกที อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนที่สำคัญก็คือ ในช่วงให้หลังมานี้มีร้านอาหารไทยระดับโลกหลายแห่งโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเริ่มนำเอา “วิถี” ดังกล่าวไปเผยแพร่อย่างมีสไตล์ ด้วยการใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ทำงานคล้ายกับเครื่องทำไอศกรีมหลอดอันสุดแสนคลาสสิก (เท่าที่เรารู้ วิธีการทำไอศกรีมหลอดนั้นมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 โน่นแล้ว และเราขอเดาว่าเบียร์วุ้นก็คงถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยแรกๆ ที่มีการทำเบียร์ขายในประเทศเราเลยล่ะ ก็ใครจะอดใจไหวจริงไหม?) และที่สำคัญคืออเมริกันชนจำนวนไม่น้อยก็ชื่นชอบมันเสียด้วยสิ กลายเป็นเรื่องฮือฮากันขึ้นมาไม่ใช่เล่น!
ขอออกตัวแรงๆ ไว้ตรงนี้ก่อนว่าเราไม่ได้บอกว่าคุณควรจะทำเบียร์วุ้นเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะเชยหรืออะไรทำนองนั้น แต่เรามาเล่าให้ฟังว่ามีคนชอบทำเบียร์วุ้นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และความนิยมก็เริ่มแพร่ไปในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากใครอยากจะลองทำดู เราก็ไม่ได้ว่าอะไร และหากอยากลองกับเบียร์อื่นๆ ที่ไม่ใช่บรรดาเบียร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาดูบ้าง เราแนะนำว่าให้เลือกเบียร์ที่แอลกอฮอล์ต่ำสักหน่อย จำพวกลาเกอร์หรือพิลสเนอร์ต่างๆ น่าจะดี แต่หากอยากลองอะไรแปลกใหม่ก็หยิบเซสชั่นไอพีเอมาลองทำดูได้นะ ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก เพราะนอกจากจะสนุกดีที่ได้ลุ้นแล้ว ผลที่ได้อาจจะทำให้คุณติดใจไปยาวๆ หรือไม่ก็อำลากันไปในคราเดียว แต่ก็นั่นล่ะท่านผู้ดื่มทั้งหลาย เบียร์ยังมีให้ลองอีกมากมายสุดๆ ยังไงออกหัวหรือก้อยก็มาแบ่งปันกันด้วยนะ
No author
ภูมิประเทศมันแตกต่างกัน เมืองนอกอากาศมันหนาวถึงชอบกินเบียร์อุ่นๆ บ้านเรามันเมืองร้อน ให้แดกเบียร์อุ่นก็ขมตายห่า ต้องเบียร์วุ้นเย็นครับ
No author
คุณจะตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ เพื่อหลอกให้คนเข้ามาอ่านพรรณาโวหารของคุณ ในเว็บขายเบียร์ของคุณเพื่ออะไร
No author
นั่งเขียนอยู่ บนก้อน ไหน (เมฆ)
No author
การที่คนรักเบียร์ดูถูกวิถีใหม่ของเบียร์เป็นเรื่องปกติอะ แต่เราว่า กว่าเบียร์นั้นจะผ่านร้อนหนาวมาจนเป็นเบียร์ที่มีในปัจจุบัน มันก็คงผานความนิยมมาหลายแบบจนกลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว การดื่มแบบไม่เย็นก็คงคลาสสิค แต่การใส่นำ้แข็ง ก็เป็นเรื่องใหม่ที่มันไม่ใช่จะผิดอะไร แหม่… มาดูถูกกันได้
อะไรที่มันน่าสนุกกว่ากันล่ะ ลองของใหม่อันตื่นเต้น และดื่มดำ่กับความเป็นวัฒนธรรมที่ยาวนาน
โอ้ย…. ผมชอบมันทั้งสองนั่นแล่ะ
เสน่ห์ของเบียร์คือกลิ่น น่าเสียดายที่ประสาทรับกลิ่นของผมทำงานได้ไม่เต็มที่นัก ทำให้ผมไม่รู้สึกถึงความลุ่มรสอันนี้เท่าไหร่
ที่สำคัญ บรรดาคราฟท์เบีร์ทั้งหลาย ถ้าเบียร์เก่าๆ มันมีปัญหากับการกินเย็น การใส่น้ำแข็งมากนัก
ทำแบบ เบียร์สำหรับกินเย็น เบียร์สำหรับทำวุ้นไปเลยสิ นี่อาจกลายเป้นวัฒนธรรมใหม่ในการกินเบียร์ อีกสักร้อยปี เราก็จะได้มาเหยียดๆ พวกกินเบียร์ลมก็ได้